จีนสุดเคือง หลังญี่ปุ่นเสนอ “ยูเนสโก” ขึ้นทะเบียนจม.ลาตายหน่วย “กามิกาเซ” เป็นเอกสารสำคัญของโลก

รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – จีนวันนี้ (10 ก.พ.) ออกมาประณามญี่ปุ่นที่มีแผนขอให้องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ขึ้นทะเบียนจดหมายของเหล่านักบินกองกำลังจู่โจมพลีชีพ “กามิกาเซ” ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้เทียบเท่ากับเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์อื่นๆ เป็นต้นว่า บันทึกของแอนน์ แฟรงค์ และ “แมกนาคาร์ตา” มหากฎบัตรของอังกฤษ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเมืองมินามิคิวชู ซึ่งอยู่ทางภาคใต้ของญี่ปุ่นได้ขอให้องค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนพินัยกรรม และจดหมายลาตายของบรรดานักบินที่ปฏิบัติภารกิจโจมตีเรือรบฝ่ายสัมพันธมิตรทางอากาศ เพื่อเน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของสันติภาพโลก

เมืองแห่งนี้เป็นที่ตั้งของสนามบินซึ่งนักบินแดนอาทิตย์อุทัยหลายร้อยชีวิตเปิดฉากโจมตีแบบพลีชีพเมื่อปี 1945 ซึ่งเป็นปีที่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศของจีนชี้ว่า บรรดานักบินในกองกำลังจู่โจมพิเศษกามิกาเซไม่คู่ควรกับการยอมรับนับถือเช่นนั้น

“เป็นที่ชัดเจนว่าการที่ (ญี่ปุ่น) ขอให้ (ยูเนสโก) ยอมรับนักบินกามิกาเซนั้นมีจุดประสงค์แอบแฝง นั่นก็คือความพยายามสร้างภาพอันสวยหรูให้ประวัติศาสตร์การรุกรานของกองทัพญี่ปุ่น” หวา ชุนอิง โฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศแดนมังกรระบุในการแถลงสรุปข่าวประจำวัน

หวากล่าวเสริมว่า “เจตนารมณ์ดังกล่าวขัดต่อวัตถุประสงค์ขององค์การยูเนสโกที่ต้องการธำรงสันติภาพโลกราวขาวกับดำ และประชาคมนานาชาติต้องออกมาประณาม ตลอดจนต่อต้านความพยายามนี้อย่างเด็ดขาดจริงจัง”

ทั้งนี้ สายสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นสั่นคลอนมานานแล้ว โดยจีนให้เหตุผลว่า เป็นเพราะญี่ปุ่นไม่ยอมชดใช้ความผิดที่เคยยึดครองพื้นที่บางส่วนของจีนทั้งก่อนและในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

ความขัดแย้งในประเด็นหมู่เกาะพิพาทในทะเลจีนตะวันออกได้สร้างความบาดหมางให้แก่ทั้งสองชาติยิ่งกว่าเดิม โดยทั้งสองชาติได้ส่งเรือไปยังหมู่เกาะร้างดังกล่าว และเกิดการประจันหน้ากันอยู่บ่อยครั้ง กระตุ้นให้เกิดความหวั่นวิตกว่าทั้งสองฝ่ายอาจปะทะกัน

นอกจากนี้ สายสัมพันธ์ของทั้งสองชาตินั้นทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น เมื่อจีนออกมาประกาศเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) เหนือทะเลจีนตะวันออก และนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น เดินทางไปเยือนศาลวีรชนสงคราม “ยาสุกุนิ” อันเป็นที่สิงสถิตของดวงวิญญาณทหารที่จบชีวิตในสงครามราว 2.5 ล้านคน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีบางส่วนเป็นนายทหารระดับสูงที่ถูกประหารชีวิตด้วยข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2