เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน แห่งฟิลิปปินส์ ระบุว่า ความพยายามต่างๆ ที่จีนกระทำอยู่เพื่ออ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนในทะเลจีนใต้นั้น ไม่ต่างอะไรไปจากการกระทำของนาซีเยอรมันในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 พร้อมกันเขายังเรียกร้องไม่ให้บรรดาผู้นำของโลกทำผิดซ้ำรอยอดีต ทางด้านปักกิ่งยังไม่ได้แสดงปฏิกิริยาตอบโต้อย่างเป็นทางการ คงมีแต่สื่อของทางการซึ่งออกมาตราหน้าประมุขแดนตากาล็อกว่าโง่เขลาไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร อีกทั้งทำตัวแบบนักการเมืองมือสมัครเล่น
ในการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ อันทรงอิทธิพลของสหรัฐฯ อากีโนเรียกร้องเหล่าผู้นำของโลก อย่าได้กระทำความผิดด้วยการพะเน้าพะนอโอนอ่อนให้จีน ในขณะที่แดนมังกรกำลังหาทางควบคุมน่านน้ำและหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ ที่ช่วงชิงกับชาติอื่นๆ อยู่
“ต้องรอถึงเมื่อไรพวกคุณถึงจะบอกออกมาว่า ‘พอกันที’ แน่นอนทีเดียว โลกจะต้องพูดออกมาอย่างนี้ ลองนึกถึงเหตุการณ์การยกแคว้นซูเดเตนแลนด์ ในความพยายามที่จะพะเน้าพะนอโอนอ่อนให้ฮิตเลอร์เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามโลกครั้งที่ 2 ดูเถอะ” หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานคำพูดของอากีโน ขณะให้สัมภาษณ์ที่กรุงมะนิลาในวันอังคาร (4 ก.พ.)
ทั้งนี้ อากีโนกำลังกล่าวพาดพิงถึงการที่พวกชาติตะวันตกไม่ได้หนุนหลังเชโกสโลวะเกีย ตอนที่ทหารนาซีเยอรมันภายใต้การนำของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เข้ายึดครองพื้นที่ทางภาคตะวันตกของชาติยุโรปแห่งนี้เมื่อปี 1938 ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่ 2 จะปะทุขึ้น
อากีโนได้แสดงความคิดเห็นเช่นนี้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ หลังจากนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น ได้เติมเชื้อไฟให้กรณีพิพาทแย่งชิงดินแดนกับจีน โดยเขาได้เปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างแดนมังกรกับแดนอาทิตย์อุทัยว่า เหมือนอังกฤษกับเยอรมนีในช่วงใกล้จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1
ญี่ปุ่นกับจีนกำลังขัดแย้งกันเรื่องอำนาจอธิปไตยเหนือหมู่เกาะพิพาทในทะเลจีนตะวันออก จนทำให้เกิดความหวั่นกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าอาจจะเกิดการเผชิญหน้าทางทหารขึ้นระหว่างชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจแห่งเอเชีย 2 รายนี้
นอกจากนั้น จีนยังได้ออกมาอ้างกรรมสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด กระทั่งน่านน้ำที่อยู่ใกล้ชายฝั่งของประเทศเพื่อนบ้าน โดยที่ฟิลิปปินส์ ตลอดจนเวียดนาม มาเลเซีย บรูไน และไต้หวัน ต่างอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำบางส่วนของทะเลสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้เช่นกัน และกรณีพิพาทที่คุกรุ่นมาหลายสิบปีแล้วเหล่านี้ ได้ทำให้ทะเลจีนใต้กลายเป็นจุดอันตรายอีกจุดหนึ่งซึ่งอาจเป็นชนวนให้กิดความขัดแย้งทางการทหาร
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้เพิ่มกำลังทหารและกองกำลังรักษาชายฝั่งในทะเลจีนใต้เพื่อเน้นย้ำการอ้างสิทธิของตน เป็นเหตุให้เกิดความตึงเครียดทางการทูตรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
โดยเฉพาะฟิลิปปินส์นั้น ได้แสดงท่าทีโกรธเกรี้ยวจีนมากกว่าเพื่อน เมื่อปีที่แล้วมะนิลาได้ยื่นฟ้องต่อศาลกฎหมายทะเลของสหประชาชาติ ขอให้ตัดสินว่าการอ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ของจีนเป็นโมฆะ ขณะที่จีนปฏิเสธไม่เข้าร่วมกระบวนการยุติธรรมนี้ของยูเอ็น
ทางด้านทางการจีนนั้น จนกระทั่งถึงเย็นวันพุธ กระทรวงการต่างประเทศแดนมังกรยังไม่ได้ออกมาแสดงปฏิกริยาใดๆ ต่อการที่อากีโนพูดว่าจีนเหมือนนาซีเยอรมัน ทว่าสำนักข่าวซินหวาของทางการแดนมังกร ได้เผยแพร่บทวิจารณ์ชิ้นหนึ่งที่มีเนื้อหาตอบโต้กลับอย่างเกรี้ยวกราด
“ประธานาธิบดีเบนิโญ เอส อากีโน ที่ 3 แห่งฟิลิปปินส์ ผู้ซึ่งเลือกใช้วิธีการยั่วโทสะในเวลาจัดการกับกรณีพิพาททางทะเลที่เกิดขึ้นกับประเทศจีน ไม่เคยเลยที่จะถูกมองว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติอันยิ่งใหญ่คนหนึ่ง สำหรับการได้รับยกย่องเป็นรัฐบุรุษผู้เฉลียวลาดในภูมิภาคนี้” บทวิจารณ์นี้กล่าว
“แต่การโจมตีต่อต้านจีนครั้งล่าสุดของเขาตามที่มีรายงานข่าว โดยที่เขาไร้สติเปรียบเทียบเพื่อนบ้านทางตอนเหนือของเขากับเยอรมนียุคนาซีนั้น ได้เปิดโปงให้เห็นสีสันเนื้อแท้ของเขาว่าเป็นเพราะนักการเมืองมือสมัครเล่นผู้โง่เขลาไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประวัติศาสตร์หรือเรื่องความเป็นจริง”
บทวิจารณ์นี้ยืนยันด้วยว่า การที่จีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนในทะเลจีนใต้นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม ส่วนการเอ่ยพาดพิงถึงสงครามของอากีโนและอาเบะ กลับเป็นสิ่งที่ไม่มีน้ำหนัก
“ถึงแม้ผู้นำของฟิลิปปินส์และของญี่ปุ่นได้ทำการเปรียบเทียบอย่างไม่ได้เรื่องไม่ได้ราวเช่นนี้แล้ว แต่ประชาคมระหว่างประเทศก็ไม่สามารถที่จะเพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงที่ว่า จีนนั้นได้เลือกที่จะใช้เส้นทางแห่งการพัฒนาอย่างสันติมานานแล้ว” ซินหวาระบุ
ระหว่างการให้สัมภาษณ์นิวยอร์กไทมส์ อากีโนได้เตือนว่าจีนอาจจะเดินหน้าเรียกร้องดินแดนมากขึ้นอีก ถ้าหากประสบความสำเร็จในการเข้าควบคุมพื้นที่ซึ่งฟิลิปปินส์ก็อ้างกรรมสิทธิ์อยู่ด้วยนี้
“ถ้าหากในตอนนี้เราบอกว่ายินยอมกับบางสิ่งบางอย่างที่เราเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ผิดแล้ว จะมีหลักประกันอะไรว่าความผิดนั้นจะไม่ถูกขยายให้ใหญ่โตออกไปเรื่อยๆ” เขาบอก
อากีโนเน้นย้ำว่า ฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นหนึ่งในชาติที่มีกองทหารอ่อนแอที่สุดในภูมิภาค จะไม่ยอมยกดินแดนส่วนใดก็ตามให้กับจีน ทว่าในขณะเดียวกันอากีโนก็ย้ำว่า ประเทศของเขายังต้องการความช่วยเหลือจากต่างประเทศ
ในช่วงต่อมาของการให้สัมภาษณ์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ได้กล่าวด้วยว่า “คุณ (จีน) อาจจะมีอำนาจ แต่การมีอำนาจไม่ได้หมายความว่า คุณ (จีน) จะเป็นฝ่ายถูกเสมอไป”