oryza.com - เว็บไซต์วงการธุรกิจค้าข้าวโลก รายงานอ้างกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) คาดการณ์เบื้องต้นว่ายอดส่งออกข้าวไทยลดลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน เหลือแค่ราว 6.6 ล้านตันในปีปฏิทิน 2013 ลดลงร้อยละ 5 จากยอดส่งออกข้าวของปฏิทิน 2012 โดยต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ 8 ล้านตันถึง 17 เปอร์เซ็นต์
รายงานของ Oryza.com เว็บไซต์จดหมายข่าวของวงการธุรกิจค้าข้าวโลก ระบุว่าเมื่อปี 2012 ไทยต้องสูญเสียสถานะผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยมีปริมาณการส่งออกเหลือแค่ราวๆ 6.9 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 35 จากยอดส่งออก 10.6 ล้านตันของปีก่อนหน้านี้ ขณะที่ปี 2013 สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก ด้วยมียอดส่งออกเหลือแค่ 6.6 ล้านตันเท่านั้น
เว็บไซต์แห่งนี้อ้างความเห็นของนักวิเคราะห์บอกว่า ยอดการส่งออกข้าวของไทยที่ลดลง ส่วนใหญ่เป็นเพราะราคาที่สูงเกินจริง เหนือกว่าราคาตลาดถึงราวร้อยละ40-50 อันเป็นผลมาจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลในเดือนตุลาคม 2011 ซึ่งจากนั้นไม่นาน รัฐบาลก็กลายเป็นผู้ซื้อข้าวรายใหญ่ของประเทศ และคาดหมายว่าในช่วงสิ้นปี 2013 รัฐบาลมีข้าวในสต๊อกเหลืออยู่อีกราว 12.8 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากระดับ 5.6 ล้านตันในช่วงปี 2011 ถึง 130 เปอร์เซ็นต์
ด้วยสภาวะเงินขาดมือ เป็นผลให้รัฐบาลต้องทบทวนนโยบายข้าว และเมื่อเร็วๆนี้ทางคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ตัดสินใจไม่ขยายเวลาโครงการรับจำนำออกไปจากที่ฤดูกาลผลิตปี 2013/14 จะสิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม ปัญหาความยุ่งเหยิงทางการเมือง คอรัปชันและขาดเงินทุน กำลังกลายเป็นความท้าทายใหญ่หลวงต่อภาคอุตสาหกรรมข้าวในไทย
ในรายงานของ Oryza.com ระบุว่ามีผู้มีสิทธิออกเสียงแค่ราวๆ 45.8 เปอร์เซ็นต์ที่ออกไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยผู้ประท้วง ซึ่งในนั้นรวมไปถึงชาวนาหลายหมื่นคนที่ผิดหวังต่อการจ่ายเงินล่าช้าภายใต้โครงการรับจำนำข้าว พากันปิดกั้นหน่วยเลือกตั้งในบางพื้นที่ของประเทศ ดังนั้นทางคณะกรรมการการเลือกตั้งอาจต้องสั่งเลือกตั้งใหม่ภายใน 180 วัน นั่นหมายความว่าชาวนาและผู้ส่งออกอาจต้องทุกข์ทรมานไปอย่างน้อยๆ อีก 6 เดือน
ขณะเดียวกัน นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการรัฐมนตรีพาณิชย์ ออกมายอมรับว่าการตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวโดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อาจนำไปสู่การยกเลิกสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐกับจีนจำนวน 1 ล้านตัน
