เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - รัฐบาลอิหร่าน ประกาศเดินหน้าฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากทางการสหราชอาณาจักร จำนวน 657 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 21,675 ล้านบาท) โดยระบุถูกรัฐบาลเมืองผู้ดีเบี้ยวข้อตกลงไม่จัดส่งอาวุธตามสัญญาที่อิหร่านสั่งซื้อไว้เมื่อมากกว่า 30 ปีก่อน
รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลอิหร่าน ภายใต้การนำของประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ตัดสินใจยื่นฟ้องร้องต่อศาลสูงของอังกฤษต่อกรณีที่บริษัทอาวุธ “ไอเอ็มเอส” ที่มีรัฐบาลสหราชอาณาจักรเป็นเจ้าของ ไม่ยอมจัดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์มูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ให้แก่อิหร่านตามสัญญาที่ทำขึ้นเมื่อ 35 ปีก่อน
โดยรัฐบาลอิหร่านต้องการให้อังกฤษชดใช้ค่าเสียหายให้เป็นเงิน 657 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 21,675 ล้านบาท) หลังจากที่การเจรจาเพื่อประนีประนอมระหว่างผู้แทนเจรจาของอิหร่านกับบริษัทอาวุธดังกล่าวประสบความล้มเหลว
ข้อตกลงดังกล่าวระหว่างบริษัทอาวุธไอเอ็มเอสของรัฐบาลอังกฤษ กับรัฐบาลอิหร่านในยุคของ “พระเจ้าชาห์ ปาห์ลาวี” ในช่วงปี 1971-1976 ซึ่งผู้นำอิหร่านในเวลานั้นได้จ่ายเงินให้แก่บริษัทไอเอ็มเอสไปแล้วราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการสั่งซื้อรถถังประจัญบานแบบ “ชีฟเทน” จำนวน 1,500 คัน และยานซ่อมบำรุงอีก 250 คัน
อย่างไรก็ดี เมื่อเกิดการปฏิวัติโค่นล้มพระเจ้าชาห์เมื่อปี 1979 และอิหร่านกลายสภาพเป็นสาธารณรัฐอิสลาม รัฐบาลอังกฤษได้ตัดสินใจยุติการส่งมอบยุทโธปกรณ์ให้แก่อิหร่านตามข้อตกลงอย่างกะทันหัน หลังจากที่ได้ส่งมอบรถถังให้กับอิหร่านไปเพียง 185 คัน จากทั้งหมด 1,500 คันที่อิหร่านสั่งซื้อ และกลายเป็นที่มาของการต่อสู้ยาวนานมากกว่า 30 ปีของรัฐบาลอิหร่านเพื่อเรียกร้องขอเงินคืน ซึ่งทางรัฐบาลลอนดอน ได้ยืนกรานปฏิเสธจ่ายเงินคืนแก่เตหะรานมาโดยตลอด
ด้านโฆษกกระทรวงกลาโหมอังกฤษแถลงในวันเสาร์ (1) โดยระบุว่า จะไม่มีการจ่ายเงินก้อนดังกล่าวคืนให้แก่อิหร่านตราบใดที่มาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรป (อียู) ต่ออิหร่านยังคงมีผลบังคับใช้
ทั้งนี้ เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว รัฐบาลอิหร่าน สามารถบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการแก้ปัญหาโครงการนิวเคลียร์กับ 6 ชาติมหาอำนาจ คือ สหรัฐฯ จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และเยอรมนี
ซึ่งตามข้อตกลงดังกล่าว ชาติมหาอำนาจจะยอมผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรทางการเงิน และเศรษฐกิจต่ออิหร่าน หากรัฐบาลเตหะราน ยุติการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่ระดับ 20 เปอร์เซ็นต์ ก่อนที่การหารือรอบใหม่เพื่อปูทางไปสู่ “ข้อตกลงถาวร” จะเปิดฉากขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์นี้