เอเอฟพี – สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดีส์ (Moody’s) ประกาศลดเครดิตยูเครนลง 1 ขั้นเมื่อวานนี้(31) โดยชี้ถึงการประท้วงที่ส่อเค้าทวีความรุนแรง อีกทั้งไม่แน่ว่ารัฐบาลยูเครนชุดใหม่จะได้รับแพ็กเกจช่วยเหลือทางการเงินจากรัสเซียตามที่ตกลงกันไว้หรือไม่
มูดีส์ หั่นเรตติ้งของยูเครนจาก Caa1 ลงมาอยู่ที่ Caa2 และให้ภาพรวมเป็น “ลบ” ซึ่งก็บ่งชี้ว่าในระยะกลางยูเครนมีสิทธิ์ถูกปรับลดความน่าเชื่อถือลงอีก
ปัจจัยสำคัญประการแรกที่นำมาสู่การลดเครดิตก็คือ “ความรุนแรงของวิกฤตการเมืองซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการชุมนุมโดยสันติใจกลางกรุงเคียฟ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2013”
“จุดยืนที่แข็งกร้าวของฝ่ายรัฐบาลและผู้ประท้วง ตลอดจนการชุมนุมที่แผ่ลามไปทั่วฝั่งตะวันตกของประเทศ ทำให้เสี่ยงที่จะเกิดวิกฤตด้านการบริหาร สุญญากาศทางอำนาจ หรือความผันผวนทางการเมือง” ถ้อยแถลงจากมูดีส์ ระบุ
สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลกแห่งนี้ชี้ว่า ปัจจัยที่ 2 คือความเสี่ยงที่รัฐบาลยูเครนจะต้องขอกู้เงินจากแหล่งทุนจากภายนอก ทำให้ประชาชนเริ่มกักตุนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งส่งผลให้สกุลเงินท้องถิ่นอ่อนค่าอย่างหนัก
ส่วนปัจจัยสุดท้ายก็คือ ความเสี่ยงที่รัสเซียอาจจะไม่รับซื้อพันธบัตรยูเครนตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้า
“หากมีการเปลี่ยนรัฐบาลซึ่งจะนำพายูเครนไปสู่การผนวกรวมกับสหภาพยุโรป มูดีส์เชื่อว่าโอกาสที่รัสเซียจะปฏิบัติตามสัญญาเรื่องรับซื้อพันธบัตรมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ ก็จะลดลงอย่างมาก”
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ประธานาธิบดี วิกเตอร์ ยานูโควิช แห่งยูเครนตัดสินใจล้มเลิกการเจรจาข้อตกลงความร่วมมือด้านการค้าและการเมืองกับอียู เพื่อเห็นแก่สายสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ระหว่างกรุงเคียฟกับนายเก่าอย่างมอสโก สร้างความโกรธแค้นต่อพลเมืองที่ฝักใฝ่ยุโรป และเป็นชนวนเหตุให้คนนับแสนๆออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาล
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา(28) สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ก็เพิ่งจะลดเรตติ้งของยูเครนจากระดับ B- ลงเหลือแค่ CCC+ โดยอ้างถึงการเมืองที่ไร้เสถียรภาพอยู่ในเวลานี้