ผู้นำชาติละตินอเมริกา-แคริบเบียน เห็นชอบกำหนดภูมิภาคของตนเป็น “เขตสันติภาพ” งดใช้กำลังแก้ปัญหาทุกรูปแบบ

เอพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผู้นำในภูมิภาคละตินอเมริกาและแคริบเบียน ลงนามรับรองมติประวัติศาสตร์ประกาศให้ภูมิภาคของตนเป็น “เขตแห่งสันติภาพ” ในวันพุธ (29) พร้อมให้คำมั่นจะแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างกันโดย “ไม่ใช้กำลัง” ในทุกรูปแบบ

คำประกาศร่วมดังกล่าวเกิดขึ้นในวันสุดท้ายของ “การประชุมสุดยอด” ผู้นำ 33 ชาติในอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง อเมริกาใต้ รวมถึง ดินแดนหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียน แต่ไม่รวมสหรัฐฯ และแคนาดา ที่กรุงฮาวานา เมืองหลวงของคิวบา

โดยประธานาธิบดีราอูล กาสโตร แห่งคิวบา ในฐานะเจ้าภาพการประชุมออกมาเปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเห็นพ้องกันในการยึดมั่นหลักการไม่แทรกแซงกิจการภายในของกันและกัน และการเคารพในสิทธิอันชอบธรรมของแต่ละประเทศที่จะเลือกดำเนินรูปแบบทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมในแบบของตนเอง โดยจะไม่นำเอาความแตกต่างในเรื่องดังกล่าวมาเป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมมิตรภาพอันดีระหว่างกัน

แต่ที่สำคัญที่สุด คือ การที่ผู้นำทั้ง 33 ชาติของกลุ่มประเทศที่เรียกตัวเองว่า ประชาคมแห่งรัฐละตินอเมริกันและแคริบเบียน (CELAC) ลงนามรับรองมติประวัติศาสตร์ร่วมกันในการประกาศให้ภูมิภาคของตนเป็น “เขตแห่งสันติภาพ” และให้คำมั่นจะแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างกันโดย “ไม่ใช้กำลัง”

รายงานข่าวระบุว่า ที่ประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม CELAC ที่คิวบาครั้งนี้ยังมีมติร่วมกันในการประกาศการสนับสนุนจุดยืนของรัฐบาลอาร์เจนตินาในการอ้างอธิปไตยเหนือ “หมู่เกาะฟอล์กแลนด์” หรือหมู่เกาะ “มัลบีนาส” ในภาษาสเปน ท่ามกลางรายงานข่าวที่ว่า ผู้นำนิยมซ้ายบางคนในที่ประชุมถึงขั้นกล่าวถ้อยแถลงที่มีเนื้อหาโจมตีสหรัฐฯ ที่ใช้อิทธิพลครอบงำสถาบันการเงินระหว่างประเทศ รวมถึงพยายามขยายอำนาจของตนผ่านกลไกของ “ทุนนิยมที่ชั่วช้า” และ “จักรวรรดินิยมทางวัฒนธรรม”

ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการประชุม รัฐบาลคิวบาได้ส่งมอบตำแหน่งประธานหมุนเวียนของกลุ่ม CELAC ให้กับเลารา ชินชิญา ประธานาธิบดีหญิงของคอสตาริกา ในฐานะประธานการประชุมสุดยอดครั้งต่อไปของกลุ่มประเทศที่เป็นที่รวมของประชากรมากกว่า 591 ล้านคน