เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ผลสำรวจล่าสุดซึ่งจัดทำโดยศูนย์วิจัย “พีว” ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ชี้ 63 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,504 คนทั่วสหรัฐฯ “เห็นด้วย” ที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ตัดสินใจรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐบาลคอมมิวนิสต์คิวบา หลังจากสหรัฐฯดำเนินมาตรการคว่ำบาตรคิวบาต่อเนื่องมานานเกินครึ่งศตวรรษนับตั้งแต่ปี ค.ศ.1961
ผลสำรวจยังพบว่า นอกเหนือจากกลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกันจำนวน 63 เปอร์เซ็นต์ จะเห็นด้วยกับการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลวอชิงตันและฮาวานาแล้ว กลุ่มตัวอย่าง 66 เปอร์เซ็นต์ยังระบุว่า พวกเขาปรารถนาจะเห็นรัฐบาลอเมริกันยกเลิกมาตรการปิดล้อมทางเศรษฐกิจในทุกรูปแบบต่อคิวบาด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจความคิดเห็นครั้งนี้ พบข้อมูลว่ามีกลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกันเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่เชื่อว่า คิวบาจะกลายเป็น “ประเทศประชาธิปไตย” ในอนาคตอันใกล้นี้ ขณะที่กลุ่มตัวอย่าง 60 เปอร์เซ็นต์เชื่อว่า คิวบาจะยังคงไม่หันหลังให้กับระบอบคอมมิวนิสต์ ถึงแม้จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับวอชิงตัน
ทั้งนี้ หากจำแนกผลสำรวจตามช่วงวัยของกลุ่มตัวอย่างจะพบว่า ชาวอเมริกันที่มีอายุระหว่าง 18-49 ปี คือ กลุ่มที่หนุนการรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับคิวบามากที่สุดถึง 67 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปมีสัดส่วนการคัดค้านการฟื้นฟูสัมพันธ์กับคิวบาสูงถึง 57 เปอร์เซ็นต์
ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดถูกเผยแพร่ออกมาในจังหวะเวลาไล่เลี่ยกับที่รัฐบาลสหรัฐฯและคิวบา เปิดฉากการหารือครั้งประวัติศาสตร์นาน 2 วันในกรุงฮานาวาในวันพุธ (21ม.ค.) เพื่อยุติความเป็นปรปักษ์ยุคสงครามเย็นที่ยืดเยื้อมานานหลายทศวรรษ โดยการประชุมที่กรุงฮาวานาในครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯและราอูล กาสโตร ผู้นำคิวบา บรรลุข้อตกลงประวัติศาสตร์ฟื้นฟูความสัมพันธ์กลับสู่ระดับปกติเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
