เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - ราคาน้ำมันสหรัฐฯ ปิดลบ ส่วนวอลล์สตรีทดิ่งลงวานนี้ (24) จากความกังวลต่อข้อมูลการผลิตจีนและภาวะเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ ขณะที่ปัจจัยนี้ผลักให้ทองคำขยับขึ้นเล็กน้อย หลังนักลงทุนเข้าซื้อเพื่อลดความเสี่ยง
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 68 เซ็นต์ ปิดที่ 96.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 30 เซ็นต์ ปิดที่ 107.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากแนวโน้มการเติบโตของจีน ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ หลังเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (23) ว่ากิจกรรมการผลิตแดนมังกรหดตัวในเดือนมกราคม
ส่วนตลาดหุ้นสหัฐฯ วานนี้ (24) ดิ่งลงเกือบ 2 เปอร์เซ็นต์ และร่วงลงหนัก 2 วันติด สืบเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่และผลประกอบการที่น่าผิดหวังของเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่
ดาวโจนส์ ลดลง 318.24 จุด (1.96 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,879.11 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 38.17 จุด (2.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,790.29 จุด แนสแดค ลดลง 90.70 จุด (2.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,128.17 จุด
นักวิเคราะห์มองว่า เหล่านักลงทุนต่างหวาดผวาตามหลังข่าวค่าเงินเปโซของอาร์เจนตินา รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ในตลาดเกิดใหม่ ดิ่งลงอย่างแรง ขณะเดียวกันก็ยังคงผิดหวังกับรายงานผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาดหมายของบริษัทหลายแห่ง
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยข้างต้น ส่งผลให้ราคาทองคำวานนี้ (24) ขยับขึ้นเล็กน้อย ด้วยนักลงทุนหันเข้าหาโลหะมีค่า ที่ถูกมองในฐานะสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,264.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์