ธปท.ยืนยันเงินบาทไทยแข็งแกร่ง ลั่นจะไม่เกิดปัญหาซ้ำรอยเงินเปโซของอาร์เจนตินา แต่ยังต้องติดตามปัญหาของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างใกล้ชิด ชี้ประเทศที่มีปัญหาเกิดจากขาดดุลแฝด ทั้งบัญชีเดินสะพัด และการขาดดุลการค้า ส่งผลให้ถูกบีบให้ลอยตัวค่าเงิน ขณะที่เงินบาทไทยมีความยืดหยุ่นสูง
นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยอมรับว่า ค่าเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา บางช่วงอ่อนค่าเร็วกว่าเงินสกุลภูมิภาค เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง แต่ในช่วงเดือนมกราคม 2557 เงินบาทเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ เนื่องจากสถานการณ์การเมืองในประเทศยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ และยังไม่มีปัจจัยใหม่มากดดันเพิ่มเติม ดังนั้น ธปท.จึงปล่อยให้เงินบาทเป็นไปตามกลไกตลาดอย่างมีเสถียรภาพ
สำหรับปัจจัยที่ยังต้องติดตามในระยะนี้ คือ ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ว่าจะมีการลดทอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (คิวอี) เพิ่มเติม จากปัจจุบันที่ลดการซื้อพันธบัตรจาก 85,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เหลือ 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีแนวโน้มที่จะลดลงอีก 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น เงินบาทในช่วงนี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวได้ทั้ง 2 ทิศทาง
อย่างไรก็ตาม ผลจากการลดคิวอีทำให้มีการถอนเงินทุนออกจากตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะอาร์เจนตินา ตุรกี และอินโดนีเซีย หรือประเทศที่มีปัญหาขาดดุลแฝด ทั้งบัญชีเดินสะพัด และการขาดดุลการค้า ส่งผลให้มีการลอยตัวค่าเงินเปโซของอาร์เจนตินา ซึ่งทำให้เกิดข้อกังวลว่าจะส่งผลต่อเงินสกุลประเทศในตลาดเกิดใหม่อื่นๆ ธปท.ยืนยันว่า ค่าเงินบาทกับเงินเปโซมีพื้นฐานที่แตกต่างกัน โดยเงินบาทไทยมีความยืดหยุ่นสูง มีทุนสำรองระหว่างประเทศสูงถึง 2.8 เท่า และมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงสูงถึงร้อยละ 16.6
นอกจากนี้ ธปท.ไม่มีนโยบายบิดเบือนกลไกตลาดการเงิน ดังนั้น มั่นใจว่าเงินบาทไทยจะไม่เกิดปัญหาอย่างอาร์เจนตินา นอกจากนี้ ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยยังขาดดุลเพียงเล็กน้อยไม่เกินร้อยละ 1 ของจีดีพีในปี 2556 ขณะเดียวกัน เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 1.7 แต่ยังคงต้องติดตามปัญหาของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างใกล้ชิด และไม่ได้นิ่งนอนใจแม้ว่าไทยมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่ง