เอเอฟพี - “โตโยต้า” ขายรถได้มากมายทำลายสถิติใหม่ด้วยจำนวน 9.98 ล้านคันในปี 2013 ที่ผ่านมา บริษัทแถลงในวันพฤหัสบดี (23 ม.ค.) ตัวเลขดังกล่าวอยู่ในระดับเหนือกว่าคู่แข่งขันรายสำคัญไม่ว่าจะเป็นเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ของสหรัฐฯ หรือโฟล์คสวาเกน ของเยอรมนี จึงทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นรายนี้ยังคงรักษาตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกเอาไว้ได้อีกปีหนึ่ง
ปริมาณการจำหน่ายรถในปีที่แล้วของโตโยต้า ซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดเท่าที่เคยทำได้ มีสาเหตุสำคัญเนื่องมาจากค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลง ขณะที่ยอดขายในตลาดสำคัญไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ หรือจีนก็แข็งแกร่ง นับเป็นสัญญาณแสดงว่าบริษัทได้ฟื้นตัวขึ้นมาจากกระแสเรียกคืนรถกลับมาซ่อมต่อเนื่องกันหลายระลอกในปี 2010 จนทำให้ภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยมัวหมองหนัก ตลอดจนจากมหาภัยพิบัติแผ่นดินไหว-คลื่นสึนามิในญี่ปุ่นเมื่อปี 2011
ตัวเลขยอดขายนี้ เหนือกว่าจีเอ็ม ซึ่งแถลงว่าบริษัทขายรถได้ 9.71 ล้านคันในปีที่แล้ว ขณะที่โฟล์คระบุว่าทำได้ 9.5 ล้านคัน
ปี 2008 คือปีแรกซึ่งโตโยต้าสามารถโค่นจีเอ็มลงจากบัลลังก์ความเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกที่บริษัทอเมริกันแห่งนี้ครองมาหลายสิบปี ทว่า ยักษ์ญี่ปุ่นรายนี้กลับต้องสูญเสียแชมป์คืนให้จีเอ็มไปในปี 2011 สืบเนื่องจากภัยพิบัติแผ่นดินไหว-คลื่นสึนามิ ได้ส่งผลกระทบกระเทือนแรงต่อการผลิตของบริษัท ในเมื่อเครือข่ายสายโซ่อุปทาน (supply chains) ของเหล่าผู้ผลิตรถสัญชาติญี่ปุ่นอยู่ในสภาพเสียหายหนัก
อย่างไรก็ดี ในปี 2012 โตโยต้ากลับมาเอาชนะคู่แข่งรายสำคัญสัญชาติอเมริกันได้อีกครั้ง ทั้งนี้ จีเอ็มซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองดีทรอยต์ และแบรนด์รถหลักๆ ที่มีอยู่ในมือได้แก่ เชฟโรเลต และคาดิลแลค มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในระยะไม่กี่ปีหลังๆ ภายหลังสามารถหลุดออกจากภาวะล้มละลายและการรับเงินกู้ช่วยเหลือจากรัฐบาลอเมริกันในช่วงวิกฤตภาคการเงินทั่วโลกปี 2008
ในการแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี โตโยต้าแสดงการคาดหมายด้วยว่า ในปี 2014 นี้บริษัทจะสามารถกลายเป็นผู้ผลิตรถรายแรกของโลกที่จำหน่ายรถได้ทะลุหลัก 10 ล้านคัน
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่จะหนุนส่งยอดขายของบริษัทฯ จะมาจากความต้องการนอกประเทศ โดยที่โตโยต้าคาดการณ์ว่า ปริมาณการขายในแดนอาทิตย์อุทัยปีนี้จะหดตัวลง 5.0% ด้วยซ้ำ เนื่องจากแผนการของรัฐบาลที่จะปรับขึ้นภาษีการขายตั้งแต่เดือนเมษายนปีนี้ น่าจะทำให้ดีมานด์ของผู้บริโภคลดต่ำลง
ทางด้าน โชตาโร โนงูชิ นักวิเคราะห์หุ้นกลุ่มรถยนต์ของบริษัทหลักทรัพย์เอสเอ็มบีซี นิกโก ซีเคียวริตีส์ ให้ความเห็นว่า โตโยต้าสามารถเอาชนะผู้ผลิตรถรายอื่นๆ เนื่องจาก “ความเหนือกว่าอย่างรอบด้าน” ทั้งในเรื่องความหลายหลากของผลิตภัณฑ์ที่เสนอต่อลูกค้า, เครือข่ายการจำหน่าย, และโครงสร้างด้านต้นทุน
“พวกเขาสามารถรักษาสมดุลเอาไว้ได้ดีมาก ถ้าหากเปรียบเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ” เขากล่าว และระบุว่า “โตโยต้าควรที่จะทำยอดขายได้ปีละ 10 ล้านคันเร็วกว่านี้ด้วยซ้ำไป ถ้าหากบริษัทไม่ต้องประสบกับปัจจัยลบสำคัญๆ อย่างเรื่องผลกระทบจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น และน้ำท่วมใหญ่ในประเทศไทย”
แต่เขาก็เตือนว่าโตโยต้าจะนิ่งนอนใจและอยู่เฉยๆ ไม่ได้ โดยเขาบอกว่า “ถ้าพวกเขาเอาแต่สนใจเฉพาะตัวเลขการผลิตและการขายแล้ว พวกเขาก็จะสูญเสียความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบของพวกเขา และจะต้องเจอกับความลำบากแน่ๆ”