เอเจนซี - แถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (22) ถูกกระหน่ำด้วยพายุที่เทหิมะลงมาหนากว่า 38 เซนติเมตรในบางพื้นที่ ขณะที่สภาพอากาศดังกล่าวประกอบกับลมกระโชกแรง และอุณหภูมิหนาวเหน็บก็เป็นผลให้โรงเรียนหลายแห่งต้องหยุดการเรียนการสอน สำนักงานต่างๆ ปิดทำการ และจำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบินหลายพันเที่ยว
มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 รายในเหตุพายุพัดถล่มที่ทำให้สภาพการจราจรบนท้องถนนหลายสายทั่วภูมิภาคไม่น่าไว้วางใจ ในนั้นรวมถึงใกล้ๆ เอมมิตสเบิร์ก มลรัฐแมรีแลนด์ ที่รถคันหนึ่งเสียหลักเข้าชนรถพ่วงขนาดใหญ่
สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติ (เอ็นดับเบิลยูเอส) คาดหมายว่าบางพื้นที่แถบชายฝั่งแอตแลนติก มีลมกระโชกแรงกว่า 48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยเกือบทั่วเขตนครบาลนิวยอร์ก อุณหภูมิดำดิ่งต่ำกว่า -10 องศาเซลเซียส
ท่าอากาศยานต่างๆ ของสหรัฐฯ มีเที่ยวบินต้องดีเลย์หรือยกเลิกรวมแล้วมากกว่า 2,700 เที่ยวในวันพุธ (22) โดยเฉพาะสนามบินลาการ์เดียของนิวยอร์ก ที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด ขณะเดียวกันเหล่าผู้โดยสารภาคพื้นก็ต้องยืนรอขบวนรถไฟเข้ายังเมืองนิวยอร์ก ซิตี ในสภาพหนาวสั่นท่ามกลางปัญหาล่าช้านานหลายชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภายในตัวเมืองนั้น ระบบขนส่งสาธารณะรถไฟใต้ดินและรถบัส ยังคงให้บริการตามปกติ
จากข้อมูลของสำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติ พบว่า เมืองที่หิมะตกหนักสุดคือมานาลาพัน มลรัฐนิวเจอร์ซีย์ ที่วัดได้ 40.1 เซนติเมตร ขณะที่โฆษกของเอ็นดับเบิลยูเอส ระบุไม่คาดหมายว่าอุณภูมิแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจะสูงขึ้นเหนือจุดเยือกแข็งก่อนวันเสาร์ (25)
แนวปะทะอากาศเย็นบริเวณชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ขยายขอบเขตไปไกลถึงฟลอริดา จอร์เจียและแอละแบมา ดินแดนที่มีคำเตือนเกี่ยวกับสภาพอากาศหนาวสุดขั้วกว่ามลรัฐอะแลสกาเสียอีก ขณะเดียวกันหิมะที่ตกลงมาอย่างหนักก็เป็นผลให้โรงเรียนหลายแห่งในฟิลาเดลเฟีย และแถบชานเมืองนิวเจอร์ซีย์, โรด ไอส์แลนด์ และรัฐอื่นๆ ต้องหยุดการเรียนการสอน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในนิวยอร์กดูเหมือนกำลังกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ด้วยโรงเรียนหลายแห่งหรือแม้แต่สวนสัตว์กลับมาเปิดอีกครั้ง แม้มีหิมะตกลงมาหนาสุดเป็นประวัติการณ์ 27 เซนติเมตรในสวนสาธารณะเซ็นทรัลปาร์ก ขณะที่หิมะขาวโพลนที่ปกคลุมไทม์สแควร์ ก็ไม่ได้ผลักให้นักท่องเที่ยวหนีหายไปไหน