xs
xsm
sm
md
lg

“นายกฯอิสราเอล” โกรธจัด ประณามการสอดแนมของสหรัฐฯ “รับไม่ได้” เรียกร้องการสอบสวน - สโนว์เดนเปิดใจ “ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ -นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ได้กล่าวประณามการจารกรรมของสหรัฐฯว่า “เป็นเรื่องที่รับไม่ได้” และจะต้อง “ไม่เป็นสิ่งที่จะกระทำ” ระหว่างมหามิตร นอกจากนี้เนทันยาฮูยังเรียกร้องให้มีการสอบสวนในเรื่องนี้ และทางด้านเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน เจ้าของเอกสารลับหน่วยงาน NSA ที่เพิ่งเปิดเผยล่าสุดทำให้เนทันยาฮูโกรธจัดนั้น ได้เปิดใจกับ หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์วันนี้ (24) ว่า เขาถือว่า “ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว” ในการปรับปรุงหน่วยงานความมั่นคงสหรัฐฯ และสามารถทำให้ชาวโลกตระหนักถึงขอบเขตโครงการสอดแนมของหน่วยงานนี้ และไม่คิดว่าเขาเป็นคนทรยศของชาติแต่อย่างใด

“ในความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างอิสราเอลและสหรัฐฯ มันมีสิ่งที่ไม่สมควรกระทำและยังมีสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ระหว่างเรา” นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ได้กล่าวการประชุมพรรคปีกซ้าย “Likud” ที่ Knesset เมื่อวานนี้ (23) “ด้วยความเสียใจที่ได้อ่านข้อมูลที่ได้ตีพิมพ์เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านั้น ผมขอเรียกร้องให้มีการสอบสวนในเรื่องนี้”

อย่างไรก็ตามเนทันยาฮูไม่ได้เปิดเผยว่า ทางอิสราเอลมีความประสงค์ที่จะร้องยังวอชิงตันให้ชี้แจง

ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เนทันยาฮูได้เปิดปากพูดออกมาหลังจากได้เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีอิสราเอลที่เดือดเป็นไฟในวันอาทิตย์ (22) โดยเนทันยาฮูจำกัดที่จะให้ความเห็นถึง โจนาทาน โพลลาร์ด สายลับที่ถูกคุมขังในสหรัฐฯในข้อหาส่งต่อข้อมูลความมั่นคงไปให้อิสราเอล ด้านนักวิจารณ์ต่างให้ความเห็นว่า การที่เนทันยาฮูไม่พยายามที่จะใส่ใจในการที่สหรัฐฯแอบสอดแนมนั้นเพราะขณะนี้ทั้งอิสราเอลและสหรัฐฯกำลังอยู่ในการเจรจาที่จะขอให้ปล่อยตัวโพลลาร์ด

อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ (23) เนทันยาฮูได้ย้ำอีกครั้งว่าข่าวฉาวของ NSA และคดีของโฟลลาร์ดนั้นไม่ควรนำมาเชื่อมโยงกัน

และหลังจากการเปิดเผยล่าสุดจากเอกสารลับของเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ทำให้มีคลื่นความเรียกร้องที่ต้องการให้มีการปล่อยตัวโพลลาร์ดนั้นเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้พบกับเอสเธอร์ โพลลาร์ด ภรรยาของโจนาทาน โพลลาร์ด

“ผมได้บอกถึงสถานการณ์ล่าสุดที่ทางอิสราเอลใช้พยายามอย่างที่ไม่มีวันสิ้นสุดที่จะช่วยสามีของเธอ ซึ่งสมควรที่จะถูกปล่อยตัวนานแล้ว ผมคิดว่าทุกคนที่อยู่ในอิสราเอลรู้ดี และคนส่วนส่วนใหญ่ในสหรัฐฯเข้าใจดี”

ซึ่งเอกสารลับของเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ที่ได้เผยแพร่ในวันศุกร์ (20) ได้เปิดเผยว่า ทั้ง NSA หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐฯ และ GCHQ หน่วยงานความมั่นคงอังกฤษได้สอดแนมผู้นำอิสราเอลในปฎิบัติการเมื่อปี 2009 ซึ่งผู้นำอิสราเอลในขณะนั้นคือ อีฮัด โอลเมิร์ต” (Ehud Olmert)

และถึงแม้ว่าเอกสารจะระบุเพียงว่า การสอดแนมนายกรัฐมนตรีอิสราเอลในสมัยนั้นจะกระทำแค่สอดแนมอีเมลของผู้นำ แต่ Debka สื่อที่รัฐบาลยิวเป็นเจ้าของได้อ้างว่า ทางNSAได้ใช้เทคโนโลยีการสอดแนมชั้นสูงที่สามารถสอดแนมได้ครอบคลุมหลายระดับในการหาข่าวความลับความมั่นคงของรัฐยิวแห่งนี้ ที่ทั้งสโนว์เดนหรือชาวยิวต่างคาดไม่ถึง” แต่อย่างไรก็ตามสื่อ Debka ไม่ได้อ้างถึงแหล่งข่าวใดในการอ้างครั้งนี้

โดยการเปิดเผยพบว่า สหรัฐฯมีจุดประสงค์เดียวที่ต้องการรู้ถึงแผนการของอิสราเอลที่ชี้ว่า รัฐยิวจะโจมตีแหล่งนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยไม่บอกมหามิตรอย่างสหรัฐฯล่วงหน้า

ทางด้านสโนว์เดนได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อวอชิงตันโพสต์ล่าสุดที่ลงตีพิมพ์ในวันนี้ (24)ว่า งานของเขาที่ทำได้บรรลุจุดมุ่งหมายภารกิจแล้ว “ผมชนะแล้ว” ที่ทำให้สังคมโลกได้ตระหนักถึงขอบเขตโครงการสอดแนมสหรัฐฯ และการที่เขาได้เปิดเผยสิ่งนี้ออกมานั้นถือเป็นการปรับปรุงการทำงานขององค์กรความมั่นคงที่ผู้อำนวยการองค์กรไม่เคยคิดที่จะทำ ซึ่งทางสโนว์เดนถือว่า ตัวเขายังทำงานให้อยู่ แต่เพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชากลับตราหน้าเขาว่า “เป็นคนทรยศ” ก็ตาม โดยสโนว์เดนได้ให้เหตุผลว่า “คำปฏิญาณที่จะจงรักภักดีไม่ใช่คำปฏิญาณในการรักษาความลับ คำปฏิญาณนั้นต่อรัฐธรรมนูญสหรัฐฯที่ผมรักษา แต่ทั้งพลเอกคีธ อเล็กซานเดอร์ ผู้บังคับบัญชาของหน่วยงาน NSA และเจมส์ แคลปเตอร์ ผู้อำนวยการหน่วยงานข่าวกรองไม่เคยรักษา”
เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน
กำลังโหลดความคิดเห็น