เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการ - นายมิคาห์อิล คาลาชนิคอฟ ผู้คิดค้นประดิษฐ์ปืนไรเฟิลจู่โจม เอเค-47 หรือปืนกลมืออาก้า เสียชีวิตลงแล้วเมื่อวันจันทร์ (23) ด้วยวัย 94 ปี เหลือทิ้งไว้แต่มรดกอาวุธ ที่สังหารชีวิตผู้คนมากกว่าปืนชนิดอื่นๆ บนโลกนี้
นายคาลาชนิคอฟ คือผู้ออกแบบปืนเอเค-47 ที่คร่าชีวิตผู้คนมากกว่าอาวุธปืนชนิดอื่นๆ แต่ในสหภาพโซเวียตแล้ว เขาถูกมองในฐานะวีรบุรุษของประเทศและสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจในอดีตกาลของกองทัพมอสโก
“เขาเสียชีวิตลงแล้ว” วิกตอร์ ชุลคอฟ โฆษกของนายอเล็กซานเดอร์ วอลคอฟ ผู้บริหารสาธารณรัฐอัดมูร์เตีย ใกล้เทือกเขาอูราลของรัสเซีย ดินแดนที่นายคาลาชนิคอฟใช้ชีวิตในบั้นปลายกล่าว
ตลอดชีวิต นายคาลาชนิคอฟ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากมาย ในนั้นรวมถึง Hero of Russia ซึ่งมอบให้สำหรับการออกแบบปืนไรเฟิลจู่โจมเอเค-47 ขณะที่เขาเคยบอกว่าไม่เคยมีเจตนาให้มันกลายเป็นอาวุธที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในความขัดแย้งที่มีอยู่ทั่วโลก
“ผมสร้างสรรค์อาวุธเพื่อปกป้องชายแดนของแผ่นดินเกิด มันไม่ใช่ความผิดของผมที่บางครั้งมันถูกใช้ในแนวทางที่ไม่ควรจะเป็น มันเป็นความผิดของพวกนักการเมือง” นายคาลาชนิคอฟ กล่าวระหว่างขึ้นรับรางวัลหนึ่งที่เครมลินในวาระครบรอบวันเกิดวัย 90 ปีเมื่อราว 4 ปีก่อน
สำหรับ เอเค-47 มีชื่อเต็มคือ Kalashnikov's Automatic หรือนิยมเรียกอีกอย่างหนึ่งสั้นๆว่า “Kalashnikov” ได้รับการออกแบบเมื่อปี 1947 ต่อมาปืนชนิดนี้ที่ผ่านการพัฒนาหลายรุ่นหลายแบบ ได้กลายเป็นปืนไรเฟิลจู่โจมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ถูกใช้โดยทหาร กลุ่มกองโจร ผู้ก่อการร้ายในดินแดนที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งต่างๆ ทั้ง อิรัก อัฟกานิสถาน และโซมาเลีย โดยจากการประเมินเชื่อว่ามีปืนชนิดนี้อยู่ทั่วโลกกว่า 100 ล้านกระบอก หลังจากรัสเซียขายลิขสิทธิ์การผลิตให้กับประเทศต่างๆหลายสิบประเทศ
อย่างไรก็ตาม ผู้ประดิษฐ์ซึ่งเป็นอดีตนายทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 2 กลับทำเงินจากพวกมันแค่เล็กน้อยและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายในเมืองอิเชฟสก์ เมืองอุตสาหกรรมห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออกราว 1,300 กิโลเมตร
นายคาลาชนิคอฟ ถือกำเนิดที่หมู่บ้านชาวไซบีเรียแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 1919 แต่เขามีชีวิตในเด็กที่น่าเศร้าเนื่องจากบิดาของเขาถูกเนรเทศออกนอกประเทศในยุคของอดีตผู้นำโซเวียตจอมเผด็จการ โจเซฟ สตาลิน
เขาเริ่มทำงานในวัยหนุ่มในตำแหน่งเสมียนการรถไฟ ต่อมาเข้าร่วมกองทัพแดงในปี 1938 และเริ่มแสดงให้เห็นถึงความสามารถพิเศษทางด้านช่างกล ด้วยการคิดค้นอุปกรณ์ตกแต่งใหม่ๆ หลายอย่างให้กับรถถังของกองทัพโซเวียต
ในสงครามโลกครั้ง ที่ 2 คาลานิพคอฟได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบกับทหารเยอรมัน และได้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ในช่วงตอนนั้นเขาคิดว่าไม่ยุติธรรมเลยที่ทหารเยอรมันมีปืนอัตโนมัติแต่ทหารรัสเซียมีแค่ปืนยาวในการทำสงคราม แล้วเขาได้ออกแบบปืนกลอัตโนมัติมาหลายแบบแต่ถูกปฏิเสธทั้งสิ้น
จากนั้นเขาก็ได้ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิชาการด้านเทคนิค ในที่สุดความพยายามของเขาก็เป็นรูปเป็นร่างและเป็นระบบมากขึ้น พอดีกับในช่วงนั้น สหภาพโซเวียตต้องการปรับปรุงพัฒนาอาวุธอย่างขนานใหญ่ และในที่สุด AK-47 ก็เป็นรูปร่างขึ้นและได้รับการอนุมัติจากกองทัพสหภาพโซเวียตในปี ค.ศ. 1947