เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- “รอสเทค” บริษัทด้านเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ซึ่งมีรัฐบาลรัสเซียเป็นเจ้าของ ประกาศขายหุ้นจำนวน 49 เปอร์เซ็นต์ของ “คาลาชนิคอฟ คอร์ป” ผู้ผลิต “ปืนอาก้า” อันโด่งดังให้กับนักลงทุนเอกชนแล้ว ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่เอกชนสามารถร่วมเป็นเจ้าของกิจการผลิตอาวุธสงครามในแดนหมีขาวที่เคยถูกผูกขาดโดยรัฐบาลมอสโกมาโดยตลอด
รายงานข่าวระบุว่า รอสเทค ซึ่งเป็นผู้ดูแลกิจการของ“คาลาชนิคอฟ คอร์ป” ได้บรรลุข้อตกลงมูลค่า 2,500 ล้านรูเบิลหรือคิดเป็นเงินไทยราว 2,455 ล้านบาทในการขายหุ้น 49 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทผู้ผลิตปืนอาก้าอันโด่งดัง ให้กับนักลงทุนเอกชน 2 รายในวันจันทร์ (23)
คำแถลงของรอสเทคระบุว่า บริษัทร่วมทุนที่นำโดยนักลงทุน 2 ราย คือ อังเดร บอชคาเรฟ และอเล็กเซ คริโวรุชโกตกลงใช้เงินจำนวนดังกล่าวซื้อหุ้น 49 เปอร์เซ็นต์ในบริษัทคาลาชนิคอฟ คอร์ป
ขณะที่ทางรอสเทคเองยังคงเป็นผู้ถือหุ้นอีก 51 เปอร์เซ็นต์ โดยเงินจำนวน 2,500 ล้านรูเบิลจากนักลงทุนเอกชนทั้ง 2 รายจะถูกนำมาใช้เพื่อปรับปรุงกิจการของคาลาชนิคอฟ คอร์ป ภายในระยะเวลา 2 ปีข้างหน้า รวมถึง จะนำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้ในโครงการวิจัยและพัฒนาต่างๆที่เกี่ยวข้องต่อไป
อเล็กเซ คริโวรุชโก หนึ่งในสองนักลงทุนเอกชนที่เข้าซื้อหุ้น 49 เปอร์เซ็นต์ในบริษัทคาลาชนิคอฟ คอร์ปครั้งนี้เผยว่า เขามั่นใจว่าจะ “คืนทุน” ได้ภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี และมั่นใจว่า การเข้ามาของนักลงทุนเอกชนจะช่วยทำให้อาวุธสงครามที่ผลิตจากโรงงานของคาลาชนิคอฟมีความทันสมัยและจะช่วยให้อาวุธสัญชาติรัสเซียมีความ “เป็นสากล”ยิ่งขึ้น
ด้านประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียออกโรงแสดงความยินดีต่อการบรรลุข้อตกลงดังกล่าวระหว่างรอสเทค กับนักลงทุนเอกชนโดยระบุ เป็น “ประวัติศาสตร์หน้าใหม่” ของแวดวงอาวุธสงคราม “เมด อิน รัสเซีย”
การตัดสินใจขายหุ้นจำนวน 49 เปอร์เซ็นต์ในบริษัทคาลาชนิคอฟ คอร์ปของทางรอสเทคมีขึ้น หลังจากที่บริษัทผู้ผลิตปืนอาก้าอันโด่งดังมีอันต้องประสบกับปัญหาทางการเงินในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนต้องมีการปรับลดกำลังการผลิตหลายครั้งหลายหนเพื่อความอยู่รอด
โดยทางรัฐบาลรัสเซียคาดหวังว่า การเข้ามาของนักลงทุนเอกชนจะช่วยพลิกฟื้นแบรนด์ของ “คาลาชนิคอฟ” ให้กลับมาเฟื่องฟูได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ ปืนเอเค-47 หรือ ปืนอาก้า เป็นปืนเล็กยาวจู่โจมขนาด 7.62 มิลลิเมตรที่ทำงานด้วยระบบแก๊ส และเลือกการยิงได้ถึง 3โหมด ถูกประดิษฐ์ขึ้นครั้งแรกในโลกโดยมิคาอิล คาลาชนิคอฟ เมื่อปี ค.ศ.1947 และเป็นที่ยอมรับกันว่า เป็นปืนที่มีน้ำหนักเบา มีขนาดกะทัดรัดและมีขนาดกระสุนที่เหมาะสม รวมถึงยังสามารถถอดล้างในสนามได้ง่าย นับเป็นปืนเล็กยาวจู่โจมที่มีการใช้อย่างกว้างขวางไปทั่วโลก
ขณะที่มิคาอิล คาลาชนิคอฟ ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 93 ปี ได้รับเกียรติให้นำนามสกุลของเขาไปตั้งเป็นชื่อบริษัทคาลาชนิคอฟ คอร์ป และได้รับการยกย่องเป็นวีรบุรุษของชาติ