เอเจนซี - ครอบครัวเหยื่อที่เสียชีวิตในเหตุวินาศกรรม 9/11 ต่างปลาบปลื้มยินดี หลังศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำพิพากษาเมื่อวันพฤหัสบดี (19) อนุญาตให้ผู้สูญเสียสามารถยื่นฟ้องเอาผิดต่อรัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้
กลุ่มก่อการร้ายที่จี้เครื่องบินโดยสารโจมตีอาคารแฝดเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เมื่อปี 2001 ส่วนใหญ่เป็นพลเมืองซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเอกสารคำฟ้องนั้นกล่าวหาว่า สมาชิกอัลกออิดะห์เหล่านี้ได้รับทุนสนับสนุนรัฐบาลซาอุฯ
ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เคยปฏิเสธการยื่นฟ้องซาอุดีอาระเบีย เมื่อปี 2002 โดยอ้างหลักความคุ้มกันของรัฐาธิปัตย์ (sovereign immunity) แต่ล่าสุด คณะผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ 3 คน ได้วินิจฉัยให้ล้มคำตัดสินดังกล่าว เมื่อวันพฤหัสบดี (19)
วิลเลียม ดอยล์ บิดาของ โจเซฟ ดอยล์ วัย 25 ปี ซึ่งเสียชีวิตบนอาคารฝั่งเหนือของเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ข่าวเอบีซีนิวส์ว่า “ผมตื่นเต้นที่สุด... 12 ปีมาแล้วที่เราได้พยายามต่อสู้เพื่อเปิดโปงกลุ่มคนที่ให้เงินสนับสนุนผู้ก่อการร้ายพวกนั้น”
“สำหรับพวกเราที่เป็นญาติของเหยื่อในเหตุการณ์ 9/11 คำพิพากษาของศาลวันนี้ทำให้พวกเรารู้สึกเหมือนเทศกาลคริสต์มาสมาถึงก่อนกำหนด”
ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ (United States Court of Appeals for the Second Circuit ) ได้วินิจฉัยล้มคำพิพากษาเดิมที่ว่า ซาอุดีอาระเบีย อยู่ภายใต้ความคุ้มกันของรัฐาธิปัตย์ซึ่งทำให้ไม่อาจถูกฟ้องร้องได้ โดยให้เหตุผลว่า ควรจะปล่อยให้มีการดำเนินคดีต่อ “เพื่อผลประโยชน์ด้านความยุติธรรม”
ชาวอเมริกันที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปเมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001 รวมถึงบริษัทประกันภัยที่สูญเงินประกันนับพันๆ ล้านดอลลาร์ ต่างกล่าวหาว่า รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย สนับสนุนเงินทุนต่อกลุ่มอัลกออิดะห์ ทั้งที่รู้ว่าเงินเหล่านั้นจะถูกนำไปใช้ก่อการร้าย
บริษัท โคเซน โอ คอนเนอร์ ซึ่งมีฐานที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เป็นตัวแทนผู้เสียหายยื่นฟ้องรัฐบาลซาอุฯ ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว โดยอ้างว่า กรุงริยาด รวมถึงสมาชิกราชวงศ์ซาอุดีอาระเบียให้การอุปถัมภ์มูลนิธิที่นำเงินไปสนับสนุนปฏิบัติการของอัลกออิดะห์