รอยเตอร์ - อัยการสหรัฐฯ แจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อ สุลัยมาน อบู ฆอยษ์ บุตรเขยของอดีตผู้นำเครือข่ายก่อร้ายอัลกออิดะห์ อุซามะห์ บินลาดิน อีก 2 กระทง ฐานวางแผน “สังหารหมู่ชาวอเมริกัน” เมื่อวานนี้ (20)
จากเอกสารคำฟ้องที่ถูกส่งไปยังศาลแขวงแมนฮัตตัน อบู ฆอยษ์ ถูกตั้งข้อหาให้การสนับสนุนด้านทรัพยากร และเครื่องไม้เครื่องมือแก่กลุ่มก่อการร้าย และวางแผนในการกระทำดังกล่าว
สแตนลีย์ โคเฮน ทนายฝ่ายจำเลยยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็น โดยอ้างว่า ต้องกลับไปพิจารณาเอกสารคำฟ้องอย่างละเอียดเสียก่อน
เอกสารฉบับนี้ให้รายละเอียด “การกระทำผิดอันโจ่งแจ้ง” ของ อบู ฆอยษ์ เช่น การที่เขาปรากฏตัวอยู่ในคลิปวิดีโอเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ปี 2001 ซึ่งเป็นการหารือแผนโจมตีครั้งต่อไประหว่างเขากับ บินลาดิน และสมุนคนอื่นๆ
อบู ฆอยษ์ ยังเคยเอ่ยยกย่องเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีโบสถ์ยิวในเมืองเจอร์บา ของตูนิเซีย เมื่อวันที่ 11 เมษายน ปี 2002 และยังกล่าวชัดเจนว่า “เราเป็นฝ่ายชนะ เมื่อทั่วโลกได้เห็นด้วยตาของพวกเขาเองว่า เราเหล่ามุญาฮิดีนได้กระทำสิ่งใดไปในหนทางของพระเจ้า ทั้งที่นิวยอร์ก และวอชิงตัน”
เขากล่าวถึงแผนการโจมตีทรัพย์สินของชาวอเมริกัน และชาวยิว “ทั้งในและต่างประเทศ” และพูดอย่างชัดเจนว่า “เราจะดำเนินการโจมตีอเมริกาในเวลา, สถานที่ และวิธีการที่เราเลือก” เอกสารคำฟ้องระบุ
เช้าวันที่ 11 กันยายน ปี 2001 ได้เกิดเหตุวินาศกรรมครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์อเมริกา โดยกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ได้ทำการจี้เครื่องบินโดยสาร 2 ลำ และนำมันไปพุ่งชนอาคารแฝดเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ ในนครนิวยอร์ก เครื่องบินลำที่ 3 ถูกจี้ไปชนอาคารเพนตากอนของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ส่วนลำที่ 4 กระทำการไม่สำเร็จเนื่องจากผู้โดยสารบนเครื่องพร้อมใจกันต่อสู้ ทำให้เครื่องบินไปตกลงที่ทุ่งแห่งหนึ่งในรัฐเพนซิลเวเนีย จากเหตุการณ์ทั้งหมดทำให้มีผู้เสียชีวิตไปร่วม 3,000 คน
สหรัฐฯ ใช้เวลาตามล่าตัว อุซามะห์ บินลาดิน อยู่นานถึง 10 ปี ก่อนที่หน่วยรบพิเศษซีล (SEAL) จะบุกไปสังหารเขาถึงบ้านพักในปากีสถาน เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ปี 2011