xs
xsm
sm
md
lg

ยูเอ็น - กก.นานาชาติ ชี้ อุรุกวัยไฟเขียว “กัญชา” เป็นการ “ฉีก” อนุสัญญาควบคุมยาเสพติด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์/เอเเจนซีส์ – การที่อุรุกวัยกำหนดให้กัญชาเป็นสิ่งเสพติดถูกกฎหมายนั้น เป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาเสพติดนานาชาติ อีกทั้งไม่ได้พิจารณาว่าพืชชนิดนี้ส่งผลร้ายต่อสุขภาพ องค์กรที่มีหน้าที่ตรวจสอบการทำตามสนธิสัญญาที่มีอายุยาวนานถึง 5 ทศวรรษฉบับนี้แถลงวานนี้ (11 ธ.ค.)

เรย์มอนด์ ยานส์ ประธานคณะกรรมการควบคุมสารเสพติดนานาชาติ (ไอเอ็นซีบี) กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้จะไม่เป็นผลดีต่อคนหนุ่มสาว แต่จะได้ “ผลในทางตรงกันข้าม คือสนับสนุนให้ประชาชนหันมาริลองยาเสพติดตั้งแต่อายุยังน้อย” และทำให้อายุของผู้เริ่มเสพยา ลดต่ำลงไปอีก

สำนักงานต่อต้านยาเสพติดและป้องกันอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นโอดีซี) ก็เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่วิพากษ์วิจารณ์ การเปลี่ยนแปลงของอุรุกวัย ชาติแรกที่กำหนดให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมายเมื่อวันอังคาร (10) โดยกล่าวว่าเห็นด้วยกับไอเอ็นซีบี และเน้นย้ำว่า ทุกรัฐควรร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อขจัดปัญหายาเสพติดทั่วโลก

เดวิด แดดจ์ โฆษกขององค์กรชำนาญพิเศษด้านการต่อต้านยาเสพติดของสหประชาชาติแห่งนี้แถลงว่า “โชคร้ายที่ ในขณะที่โลกกำลังติดพันกับการถกเถียงเรื่องปัญหายาเสพติดอย่างไม่หยุดไม่หย่อน อุรุกวัยกลับลุกขึ้นมาออกกฎหมายก่อนจะถึงสมัยประชุมวิสามัญ ของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ที่กำหนดจะมีขึ้นในปี 2016 เสียก่อน”

ในการทดลองซึ่งจะตกเป็นเป้าสายตาของชาติอื่นๆ ที่ไม่เห็นด้วยกับการเปิดเสรีกัญชานี้ อุรุกวัยได้กลายเป็นประเทศแรกที่กำหนดให้การปลูก ขาย และสูบกัญชาเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย

ร่างกฎหมายที่รัฐบาลอุรุกวัยสนับสนุน และวุฒิสภาให้ความเห็นชอบฉบับนี้ กำหนดระเบียบข้อบังคับในการเพาะปลูก จำหน่าย และการเสพกัญชา ตลอดจนมีจุดประสงค์จะแย่งชิงธุรกิจกัญชาจากบรรดาอาชญากรในชาติอเมริกาใต้เล็กๆ แห่งนี้

อย่างไรก็ตาม ไอเอ็นซีบี ที่มีฐานอยู่ในกรุงเวียนนา ออสเตรียชี้ว่า การออกกฎหมายฉบับดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืน “อนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติดให้โทษปี 1961” ซึ่งองค์กรนี้กล่าวว่า อุรุกวัยก็เป็นชาติหนึ่งที่ร่วมลงนามด้วย

ยานส์ ระบุในคำแถลงว่า อนุสัญญาฉบับนี้กำหนดว่ารัฐต่างๆ จะสามารถใช้กัญชาได้เฉพาะเพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์ หรือทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เนื่องจากพืชชนิดนี้มีฤทธิ์ทำให้เสพติด

เขารู้สึกประหลาดใจที่อุรุกวัยออกกฎหมายฉบับนี้ และรัฐบาล “ก็รู้ทั้งรู้ แต่ยังตัดสินใจละเมิดเงื่อนไขทางกฎหมายในข้อตกลงที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และนานาชาติให้การรับรองฉบับนี้”

ทั้งนี้ ไอเอ็นซีบีได้อธิบายว่าตนเป็นองค์กรกึ่งตุลาการอิสระ ที่มีหน้าที่ส่งเสริม และตรวจสอบการทำตามอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาเสพติดนานาชาติ 3 ฉบับ

กำลังโหลดความคิดเห็น