เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - “UNODC” หน่วยงานด้านยาเสพติดขององค์การสหประชาชาติ เผยรายงานประจำปีในวันพุธ (13) โดยระบุปริมาณผลผลิต “ฝิ่น” ในอัฟกานิสถานปีนี้ พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่เกษตรกรอัฟกันเริ่มมองว่า รายได้จากการค้าฝิ่นจะเป็นหลักประกันด้านความมั่นคงปลอดภัยให้กับพวกเขา ก่อนที่กองกำลังนานาชาติภายใต้การนำของทหารสหรัฐฯ และชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จะถอนกำลังออกจากแผ่นดินอัฟกันในสิ้นปีหน้า
รายงานของยูเอ็นโอดีซีซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเวียนนาของออสเตรียระบุว่า พื้นที่เพาะปลูกฝิ่นในอัฟกานิสถานได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 36 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ขณะที่ปริมาณผลผลิตของฝิ่นที่เป็นส่วนประกอบหลักในการผลิตยาเสพติดร้ายแรงประเภทเฮโรอีนได้เพิ่มขึ้นถึงเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ยูริ เฟโดตอฟ ผู้อำนวยการใหญ่ชาวรัสเซียของยูเอ็นโอดีซีเผยว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้พื้นที่เพาะปลูกและปริมาณผลผลิตฝิ่นในอัฟกานิสถานเพิ่มขึ้นอย่างสำคัญในปี 2013 นี้ เป็นเพราะชาวอัฟกันจำนวนมากรู้สึกกังวลกับอนาคตของประเทศ หลังกองกำลังนานาชาติที่เหลืออยู่กว่า 75,000 คนมีกำหนดถอนตัวออกจากอัฟกานิสถานในสิ้นปี 2014 ดังนั้น บรรดาเกษตรกรชาวอัฟกันจึงเร่งเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกฝิ่นอย่างขนานใหญ่ เพราะส่วนใหญ่เชื่อว่านี่คือโอกาสสุดท้ายที่พวกเขาจะได้กอบโกยรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำสำหรับเป็นหลักประกันความมั่นคงในชีวิต ก่อนที่ประเทศของตนจะก้าวเข้าสู่ “ยุคแห่งความไม่แน่นอน” อีกครั้ง
รายงานล่าสุดของยูเอ็นโอดีซีระบุว่า พื้นที่ปลูกฝิ่นในอัฟกานิสถานปีนี้เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 209,000 เฮกตาร์ จาก 154,000 เฮกตาร์ในปี 2012 และยังทำลายสถิติเดิมของเมื่อปี 2007 ที่มีพื้นที่ปลูกฝิ่นทั่วอัฟกานิสถานในปีนั้น 193,000 เฮกตาร์ขณะที่ปริมาณผลผลิตฝิ่นในอัฟกานิสถานปีนี้พุ่งสูงแตะระดับ 5,500 ตัน เพิ่มขึ้นเกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณผลผลิตฝิ่นในปีที่แล้ว
ขณะเดียวกัน มีการประเมินว่า รายได้จากการจำหน่ายผลผลิตฝิ่นของเกษตรกรอัฟกันในปีนี้ จะมีมูลค่าราว 950 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 30,000 ล้านบาท) หรือคิดเป็น 4 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีปี 2013 ของอัฟกานิสถานทั้งประเทศ