เอเจนซีส์ – สหรัฐฯและสหราชอาณาจักรประกาศระงับความช่วยเหลือที่มิใช่อาวุธ (non-lethal aid) ต่อกบฏทางภาคเหนือของซีเรีย แต่ไม่รวมถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เมื่อวานนี้ (11) ภายหลังจากฐานที่มั่นของกองกำลังปลดปล่อยซีเรีย (เอฟเอสเอ) ที่ตะวันตกหนุนหลังอยู่ถูกกบฏอิสลามิสต์เข้ายึดครอง
สัปดาห์ที่แล้ว กลุ่ม อิสลามิก ฟรอนท์ ซึ่งเป็นเครือข่ายกบฏที่ตั้งขึ้นใหม่ได้ขับไล่นักรบ เอฟเอสเอ ออกไปจากฐานที่มั่นบริเวณจุดผ่านแดน บับ อัล-ฮาวา ที่เชื่อมต่อไปยังตุรกี
สำหรับความช่วยเหลือที่จะถูกระงับไว้ ได้แก่ ยารักษาโรค, ยานพาหนะ และเครื่องมือสื่อสาร
สหรัฐฯและพันธมิตรตะวันตกลังเลที่จะส่งอาวุธหรือกระสุนปืนเข้าไปสนับสนุนกบฎซีเรียโดยตรง ด้วยเกรงว่าอาวุธเหล่านั้นจะตกไปถึงมือกลุ่มญิฮาดซึ่งเป็นเครือข่ายอัลกออิดะห์
โจช เออร์เนสต์ โฆษกทำเนียบขาว ยืนยันว่าสหรัฐฯหยุดส่งความช่วยเหลือที่มิใช่อาวุธไปยังภาคเหนือของซีเรียแล้ว หลังเกิดเหตุการณ์ที่ บับ อัล-ฮาวา แต่ย้ำว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ครอบคลุมถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
ฮิวจ์ โรเบิร์ตสัน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ ก็ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวบีบีซีว่า เท่าที่ทราบในเวลานี้ยังไม่มีอุปกรณ์ความช่วยเหลือใดๆ ของอังกฤษที่ตกไปถึงมืออิสลามิสต์ แต่ “เป็นการสมควรที่เราจะระงับความช่วยเหลือไว้ก่อน จนกว่าจะทราบความจริง”
สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างคำพูดของ ลูเอย์ เม็กดัด โฆษกกบฏเอฟเอสเอ ซึ่งโอดครวญว่าคำสั่งระงับความช่วยเหลือเป็นการตัดสินใจที่ “ผิดพลาด” พร้อมเรียกร้องให้ “มิตรสหาย” ตะวันตกทั้งหลายทบทวนดูอีกครั้ง และให้รอฟังสถานการณ์อีกสัก 2-3 วันก่อน
เมื่อเดือนที่แล้ว นักรบกบฏซีเรีย 7 กลุ่มใหญ่ได้แก่ อะห์รอร์ อัล-ชาม, เจย์ช อัล-อิสลาม, ชูโกร์ อัล-ชาม, ลิวา อัล-เตาฮีด, ลิวา อัล-ฮักก์, อันซอร์ อัล-ชาม และกลุ่ม อิสลามิก ฟรอนท์ ชาวเคิร์ด ได้ประกาศรวมตัวกันเป็นเครือข่ายกบฏใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามซีเรียปะทุขึ้นเมื่อ 33 เดือนก่อน โดยมีจำนวนนักรบรวมกันราว 45,000 คน
แกนนำเครือข่ายระบุว่า “อิสลามิก ฟรอนท์” เป็นกลุ่มทางการเมือง, ทหาร และสังคมที่ไม่ขึ้นตรงกับฝ่ายใด และมีเป้าหมายในการล้มล้างรัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด เพื่อสถาปนารัฐอิสลาม
พวกเขาอ้างว่าไม่ได้มีส่วนเชื่อมโยงกับอัลกออิดะห์เหมือนกลุ่ม Islamic State in Iraq and the Levant (ISIS) หรือ อัล-นุสรอ ฟรอนท์ แต่ก็ยินดีต้อนรับ “มุฮาญิรีน” (ผู้อพยพ) หรือนักรบต่างชาติในฐานะที่เป็น “พี่น้องซึ่งสนับสนุนการทำญิฮาด”
สัปดาห์ที่แล้ว อิสลามิก ฟรอนท์ ได้ประกาศแยกตัวออกจากสภาทหารสูงสุดของกองกำลังปลดปล่อยซีเรีย (SMC) ซึ่งอยู่ภายใต้กลุ่มแนวร่วมแห่งชาติซีเรียที่เป็นองค์กรกลางของกบฏ และอีก 4 วันต่อมาก็ได้ขับไล่นักรบ เอสเอ็มซี ออกไปจากฐานที่มั่นและโกดังในย่าน บับ อัล-ฮาวา จังหวัดอิดลิบ โดยโกดังแห่งนี้เป็นที่เก็บอาวุธและเครื่องมือต่างๆที่ถูกนำเข้ามาผ่านพรมแดนตุรกี
ศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีฐานในกรุงลอนดอน ระบุว่า จรวดต่อต้านอากาศยานและจรวดต้านรถถังจำนวนหลายสิบลูกถูกกลุ่ม อิสลามิก ฟรอนท์ ยึดไป
เม็กดัด ซึ่งเป็นโฆษกเอฟเอสเอ เล่าว่า อิสลามิก ฟรอนท์ ได้ชักธงของพวกเขาขึ้นแทนที่ธงของ เอสเอ็มซี หลังขอร้องให้นักรบ เอสเอ็มซี ออกไปจากพื้นที่
“แต่เราเชื่อว่ากองกำลังเหล่านั้นเป็นพี่น้องของเรา พวกเขาก็คงทราบดีว่าเราไม่ใช่ศัตรู”
โฆษกสถานทูตสหรัฐฯให้สัมภาษณ์รอยเตอร์วานนี้ (11) ว่า เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ที่ บับ อัล-ฮาวา แต่จะไม่มีผลกระทบต่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างแน่นอน เพราะมีองค์กรระหว่างประเทศและหน่วยงานที่มิใช่ของรัฐคอยทำหน้าที่แจกจ่ายอยู่
เจ้าหน้าที่ในกรุงวอชิงตันให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวเอพีว่า การส่งความช่วยเหลือที่มิใช่อาวุธผ่านจอร์แดนไปสู่ภาคใต้ของซีเรีย จะยังดำเนินไปตามปกติ
สหรัฐฯประกาศจะให้ความช่วยเหลือจำพวกอาหาร, ยารักษาโรค, อุปกรณ์สื่อสาร และยานพาหนะแก่แนวร่วมแห่งชาติซีเรีย, สภากบฏท้องถิ่น และเอสเอ็มซี รวมมูลค่าราว 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่อังกฤษก็ได้มอบความช่วยเหลือที่มิใช่อาวุธเป็นมูลค่ากว่า 20 ล้านปอนด์ เช่น รถขับเคลื่อน 4 ล้อหุ้มเกราะ, เครื่องกำเนิดไฟฟ้า, อุปกรณ์สื่อสาร, เครื่องกรองน้ำ และอุปกรณ์ป้องกันอาวุธเคมี เป็นต้น