เอเจนซีส์ - มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย และ 14 คนได้รับบาดเจ็บจากพายุหิมะ “อเล็กซา” ถล่มเป็นครั้งแรกในฤดูหนาวนี้ในซีเรียและเลบานอน ลมที่พัดแรงจัดและอุณภูมิที่ต่ำมากทำให้เกิดผลกระทบอย่างหนักต่อแคมป์ของผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย และยังทำให้การช่วยเหลือจากนานาชาติชะงักงัน คาดกันว่าสภาพอากาศที่เลวร้ายจะเลวร้ายลงไปกว่านี้ในหน้าหนาวปีนี้
พายุหิมะ “อเล็กซา” ได้คร่าชีวิตไปแล้ว 2 ราย รวมถึงยังทำให้มีผู้บาดเจ็บอีก 14 รายในเลบานอน Ya Libnan อ้างจากจอร์จ เคทตาเนห์ เลขาธิการทั่วไปองค์การกาชาดสากล
นอกจากนี้ยังพบว่า พายุในฤดูหนาวนี้ได้ทำให้เกิดความโกลาหลในการสัญจรขึ้นในภูมิภาคนี้ และยังทำให้เครื่องบินที่ให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัยของยูเอ็นนั้นไม่สามารถขึ้นบินได้ ซึ่งเครื่องบินเหล่านี้มีกำหนดที่ต้องบินนำอาหารและเครื่องดำรงชีพจากอิรักไปยังเขตตะวันออกเฉียงเหนือที่เป็นถิ่นของชาวเคิร์ดในซีเรีย ซึ่งมีชาวบ้านในแถบนั้นหลายหมื่นคนได้ถูกตัดขาด และพวกเขากำลังรอความช่วยเหลือที่จะมาถึง
“สนามบินคาเมชลิในซีเรียได้ห้ามเครื่องบินทุกประเภทขึ้นบินในสภาพอากาศเช่นนี้ที่มีทั้งหิมะตก และทัศนวิสัยที่เลวร้าย” แดน แมคนอร์ตัน โฆษกของ UNHR เผยกับรอยเตอร์ “ทาง UNHR ยังไม่สามารถออกเดินทางได้จนกว่าสภาพอากาศจะดีขึ้นมากกว่านี้”
มีการคาดกันว่าพายุหิมะ “อเล็กซา” จะอยู่จนถึงวันเสาร์ (14) ซึ่งพบว่ามีอุณหภูมิต่ำกว่า 7 องศาเซลเซียสในเขตเทือกเขาในเลบานอน
“ผมไม่รู้ว่าเต็นท์ผู้อพยพจะสามารถคงอยู่ได้หรือไม่ มันเป็นเพียงแค่โครงเหล็กไม่กี่ชิ้นประกอบเป็นรูปเป็นร่างเท่านั้น” อาบู ซูไลมาน เผยกับเอพี โดยเขาอาศัยอยู่ในเมือง Marj Dhubab ซีเรีย ที่ติดกับชายแดนซีเรีย
“อาร์ซาล” เมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือของเลบานอน อุณภูมิลดต่ำสูงกว่า 0 องศาเซลเซียสอยู่เล็กน้อย วาฟิค คาเลฟสมาชิกสภาเมืองอาร์เซล กล่าวว่าผู้อพยพนั้น “สั่นสะท้านด้วยความหนาว โดยเฉพาะผู้อพยพที่อาศัยในเต็นท์”
ด้าน ดานา สไลมาน เจ้าหน้าที่ UNHR ได้แสดงความวิตกต่อผู้อพยพชาวซีเรียในช่วงหน้าหนาว และเสริมว่ามีผู้อพยพชาวซีเรียอย่างน้อย 80,000 คน ที่ต้องทนอาศัยอยู่ในเต็นท์ผู้อพยพตลอดช่วงหนาหนาวที่โหดร้ายนี้
โดยพื้นของเต็นท์ผู้อพยพนั้นเป็นพื้นดินซึ่งจะเปลี่ยนเป็นโคลนในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเต็นท์นั้นไม่สามารถป้องกันลมและหิมะไว้ได้อย่างดีพอ
คาดกันว่ามีจำนวนผู้อพยพชาวซีเรียมากกว่า 835,000 ในขณะนี้ได้อาศัยอยู่ในเลบานอน ซึ่งรัฐบาลซีเรียตัดสินใจที่จะไม่ให้ผู้อพยพเหล่านี้อาศัยในแคมป์อพยพที่เป็นหลักเป็นแหล่งและมั่นคงด้วยเกรงว่าพวกเขาจะอยู่อาศัยอย่างเป็นทางการ
ส่วนไซมอน อิงแกรม โฆษกของกองทุนเด็กแห่งองค์การสหประชาชาติ แถลงว่า ยังขาดความช่วยเหลือในการเข้าถึงผู้อพยพ “ความต้องการนั้นล้นหลามเกินกว่าที่ทางกองทุนเด็กแห่งองค์การสหประชาชาติและพันะมิตรจะสามารถช่วยเหลือได้”
การมีสภาพอากาศที่โหดร้ายประจวบเหมาะกับการรณรงค์การฉีดวัคซีนโรคโปลิโอที่มีเป้าหมายในกลุ่มเด็กจำนวน 750,000 คนในเลบานอน โดยในตุลาคมที่ผ่านมา มีการยืนยันว่าโรคโปลิโอได้ระบาดในทางภาคตะวันออกของซีเรีย
อิงแกรมกล่าวว่า “โรคโปลิโอระบาดทางน้ำและท่อระบายน้ำเสีย ซึ่งเป็นอันตรายมากหากเกิดมีน้ำเสียเอ่อขึ้นมา”
พายุหิมะถล่มครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ในฤดูหนาวตั้งแต่มีสงครามกลางเมืองซีเรียที่เริ่มต้นในเดือนมีนาคม 2011 อย่างไรก็ตาม นักอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่า ช่วงที่ทารุณที่สุดในหน้าหนาวนี้ยังมาไม่ถึง ซึ่งจะทำให้ผู้อพยพซีเรียจำนวน 2.2 ล้านคนที่อาศัยอยู่นอกประเทศต้องมีชีวิตที่ยากลำบากมากยิ่งขึ้น และยังส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวซีเรียอีกนับหลายล้านภายในประเทศ