บีบีซี/เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุหลังคาห้างสรรพสินค้าดังของลัตเวียพังถล่มเพิ่มเป็นอย่างน้อย 49 ศพ ในนั้น 3 คนเป็นเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินซึ่งถูกเศษซากพังลงมาทับขณะเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน โดยตอนนี้หน่วยกู้ภัยกำลังเร่งมือทั้งวันทั้งคืนเพื่อค้นหาลูกค้าที่ยังรอดชีวิตและตำรวจได้ลงมือสืบสวนทางอาญาแล้ว ด้านผู้เห็นเหตุการณ์เผยพอเกิดเหตุประตูไฟฟ้าอัตโนมัติของห้างเกิดล็อก ทำให้มีผู้คนติดอยู่ภายในจำนวนมาก
เบื้องต้น วิกตอริจา เซมเบเล โฆษกหญิงหน่วยดับเพลิงและกู้ภัยแห่งรัฐเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า “ฉันยืนยันได้ว่ายอดผู้เสียชีวิตตอนนี้อยู่ที่ 45 ราย” ปรับเพิ่มยอดตายในเหตุโศกนาฏกรรมซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงหัวค่ำวันพฤหัสบดี (21) ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมเผยตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่อย่างต่ำ 38 คน นอกจากนี้เธอยังร้องขอญาติๆผู้ประสบเหตุช่วยกันต่อสายเข้าไปยังมือถือของผู้สูญหาย เพื่อจะได้ทราบถึงจุดที่อยู่ใต้ซากและเปิดทางสำหรับความช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงค่ำของวันศุกร์ (22) นายนิลส์ อูซาคอฟส์ นายกเทศมนตรีกรุงริกา อัพเดทตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ 49 คน และกังวลว่าอาจมีประชาชนมากกว่า 30 รายที่ยังติดอยู่ใต้ซากหักพัง หลังโศกนาฏกรรมผ่านพ้นมาเกิน 24 ชั่วโมงแล้ว “ตอนนี้ยอดตายอยู่ที่ 49 และมีความเป็นไปได้อย่างมากว่ายังมีอีก 30 คนที่ติดอยู่ภายใน เราหวังว่าจะมีผู้รอดชีวิต แต่ตอนนี้มันเกิน 24 ชั่วโมงแล้วและโอกาสคงไม่สูงนัก”
ในบรรดาผู้เสียชีวิตนั้น 3 คนเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉิน เมื่อหลังคาของห้างพังถล่มลงมาซ้ำอีกรอบตอนที่พวกเขากำลังเข้าช่วยหลือผู้คนที่ติดอยู่ภายใน ทั้งนี้ด้วยยอดตายรวมดังกล่าวส่งผลให้เหตุการณ์นี้กลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตนับตั้งแต่ประกาศเอกราชในปี 1991 หลังจากก่อนหน้านี้ในปี 2007 เคยเกิดเหตุไฟไหม้สถานดูแลผู้สูงอายุ คร่าชีวิตไป 25 ศพ
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ายังมีประชาชนติดอยู่ภายใต้ซากหังพังมากน้อยแค่ไหน เช่นเดียวกับสาเหตุของการพลังถล่มก็ยังไม่แน่ชัด แม้รายงานข่าวของสื่อมวลชนท้องถิ่นระบุว่าห้างสรรพสินค้าแห่งนี้กำลังอยู่ระหว่างสร้างสวนลอยฟ้าบนหลังคาก็ตาม
พอล ทริบเบิล นักบินชาวอังกฤษวัย 27 ปี ซึ่งกำลังเลือกซื้อสินค้าภายในห้างขณะเหตุเล่าว่า มีการใช้เครนขนทรายและวัสดุก่อสร้างขึ้นไปบนหลังคาในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และเขาเชื่อว่าการขาดการระบายน้ำที่ดีตามหลังฝนที่ตกลงมาอย่างหนักอาจเป็นตัวส่งเสริมให้หลังคาพังถล่มลงมาก็เป็นได้
ด้านนายวัลดิส โดมโบรฟสกิส นายกรัฐมนตรีลัตเวีย กล่าวหลังจากลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุว่า “ตำรวจเริ่มลงมือสืบสวนแล้ว ได้มีการเริ่มสืบสวนทางอาญาในความเป็นไปได้ของการละเมิดมาตรฐานการก่อสร้าง” เช่นเดียวกัยนายริชาร์ด คอซลอฟสกีส รัฐมนตรีมหาดไทยที่ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นว่า “ชัดเจนว่ามันมีปัญหาด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบการก่อสร้าง”
ภาพข่าวของสถานีโทรทัศน์เผยให้เห็นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยกำลังใช้เครื่องจักรขุดและตัดผ่านซากหังพังของอาคาร 1 ชั้นที่สร้างจากคอนกรีตและกระจก ขณะที่เครนถูกนำมาช่วยเคลื่อนย้ายเศษซากขนาดใหญ่ โดยในปฏิบัติการกู้ภัยครั้งนี้กองทัพได้ส่งทหารมากกว่า 60 นายเข้าร่วมด้วย
รายงานข่าวระบุว่า หลังคาของห้างพังถล่มลงมาครั้งแรกตอนเวลาประมาณ 18.00 น.(ตรงกับเมืองไทย 23.00 น.ของวันพฤหัสบดี) อันเป็นช่วงเวลาที่แออัดไปด้วยลูกค้า จากนั้นราว 20 นาทีต่อมา บางส่วนของหลังคาก็พังลงมาซ้ำอีก ทำให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยที่กำลังเข้าช่วยเหลือผู้รอดชีวิตต้องมาจบชีวิตตามไปด้วย
หน่วยกู้ภัยเชื่อว่าหลังคาของห้างพังลงมากินพื้นที่รวมราว 500 ตารางเมตร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าลูกค้าต่างพากันพยายามวิ่งหลบหนีตอนที่หลังคาพังถล่มลงมาหนแรก ทว่าประตูไฟฟ้าของห้างสรรพสินค้าเกิดล็อค ทำให้พวกเขาติดอยู่ภายใน
สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่าห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของห้างค้าปลีกรายใหญ่ “แม็กซิมา” เคยได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมยอดเยี่ยมระดับประเทศ เมื่อครั้งสร้างแล้วเสร็จปี 2011 ด้วย
