เอเอฟพี - ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าสูงถึง 1.09 ล้านล้านเยนในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หรือเกือบ 2 เท่าของตัวเลขเมื่อ 1 ปีก่อน สืบเนื่องจากมูลค่าการนำเข้าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น สถิติจากรัฐบาลโตเกียวเผยวันนี้(20)
ตัวเลข 1.09 ล้านล้านเยน (ราว 344,800 ล้านบาท) นั้นเพิ่มขึ้นถึง 96.1% จากสถิติ 1 ปีก่อนหน้าที่ยอดขาดดุลการค้าของญี่ปุ่นอยู่ที่ 556,200 ล้านเยน และนับว่าเหนือความคาดหมายของบรรดานักเศรษฐศาสตร์ที่ประเมินว่า ญี่ปุ่นน่าจะขาดดุลในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเพียงราวๆ 810,000 ล้านเยนเท่านั้น
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นระบุด้วยว่า ยอดขาดดุลการค้าในเดือนตุลาคมปีนี้ถือว่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 1979 และเท่ากับว่าญี่ปุ่นนั้นตกอยู่ในสภาวะขาดดุลการค้าต่อเนื่องยาวนานที่สุดเป็นเดือนที่ 16 แล้ว
มูลค่าการนำเข้าสินค้าโดยรวมเพิ่มขึ้น 26.1% มาอยู่ที่ราวๆ 7.2 ล้านล้านเยน โดยส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าพลังงานเชื้อเพลิง และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บางประเภทที่มีความต้องการสูงขึ้น
เงินเยนที่อ่อนค่าส่งผลให้มูลค่าเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ญี่ปุ่นนำเข้าจากต่างประเทศถีบตัวสูงขึ้น โดยญี่ปุ่นนั้นต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงนำเข้าหลังเกิดวิกฤตนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะไดอิจิ ซึ่งทำให้รัฐบาลต้องสั่งปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั้งหมดที่เคยผลิตไฟฟ้าป้อนความต้องการในประเทศได้ถึง 1 ใน 3
ในส่วนของการส่งออกโดยรวมนั้นเพิ่มขึ้น 18.6% มาอยู่ที่ราวๆ 6.1 ล้านล้านเยน ซึ่งเมื่อดูเป็นรายภูมิภาคก็จะพบว่า มูลค่าการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ยังขยับขึ้น 26.4% มาอยู่ที่ 1.16 ล้านล้านเยน แม้จะเป็นช่วงที่วอชิงตันประสบวิกฤตงบประมาณจนต้องสั่งปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางไปนานถึง 16 วันก็ตาม
มูลค่าการส่งออกไปยังยุโรปเพิ่มขึ้น 27.0% มาอยู่ที่ราวๆ 646,620 ล้านเยน ส่วนการส่งออกไปจีนนั้นก็ขยับขึ้นอีก 21.3% มาอยู่ที่ 1.15 ล้านล้านเยน