เอเจนซีส์ - ทาโร ยามาโมโตะ ส.ว.ญี่ป่นสายอิสระ อดีตนักแสดงที่หันมาเล่นการเมือง ได้ตกเป็นเป้าถูกลอบฆ่าหลังจากที่เขาได้ถวายสารให้สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะที่มีเนื้อหาต่อต้านนิวเคลียร์ ซึ่งถือเป็นการผิดธรรมเนียมปฏิบัติอย่างร้ายแรง และหวังต้องการให้องค์พระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นทรงกลับมามีบทบาททางการเมืองอีกครั้ง
สารจากผู้ปองร้ายส่งมาพร้อมกับมีดสั้นปลายแหลมและจดหมายที่มีข้อความว่า “กลุ่มนักฆ่าที่มาพร้อมกับมีดสั้นสังหารจะมาเยือนท่านในไม่ช้า” ใส่ไว้ในซองจ่าหน้าถึงสำนักงานของ ทาโร ยามาโมโตะ ส.ว.ญี่ปุ่นสายอิสระ ที่เคยเป็นอดีตนักแสดงและหันมาเล่นการเมือง โดยจดหมายพร้อมมีดนี้ได้ถูกพบหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจใช้เครื่อง x-ray ตรวจจับอาวุธ ซึ่งพบว่าผู้ส่งสารขู่ลอบสังหารนั้นลงชื่อว่า “The Japanese racial independence and The liberation front”
ด้าน มิซูฮิโร คิมูระ ประธานกลุ่มอิซูอิไก ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองปีกขวากล่าวว่า ชื่อของกลุ่มที่ขู่ลงมือจะเอาชีวิต ส.ว.ยามาโมโตะ นั้น ดูเหมือนจะเป็นชื่อสมมติขึ้น และอาจถูกตั้งขึ้นอย่างรวดเร็ว และที่ผ่านมา ส.ว.ยามาโมโตะ นั้น ถูกตำหนิอย่างกว้างขวางที่เขาได้ทำการถวายจดหมายที่มีเนื้อความต่อต้านนิวเคลียร์ขึ้นต่อสมเด็จพระจักรพรรดิของญี่ปุ่นในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และถือได้ว่าความพยายามครั้งนั้นของยามาโมโตะขัดกับธรรมเนียมปฏิบัติในประเทศญี่ปุ่นที่จะถือองค์พระจักรพรรดิเป็นพระประมุขของประเทศโดยทรงจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางการเมือง
แต่ถึงแม้ว่าทางกลุ่มการเมืองฝ่ายขวาของคิมูระจะรู้สึกเดือดดาลในการกระทำของ ส.ว.อดีตนักแสดงผู้นี้ที่ได้ทำการลงไปอย่างหุนหัน แต่เขาไม่อาจจะยอมรับต่อวิธีการขู่ฆ่าได้ ซึ่งคิมูระกล่าวว่า ถึงแม้จะเข้าใจในเจตนาเบื้องหลังของกลุ่มที่ส่งมีดมา แต่ในความรู้สึกของคิมูระคิดว่ามันเกินขอบเขตกฎหมาย อีกทั้ง ส.ว.ยามาโมโตะ นั้น ได้ถูกทั้งสังคมประณามและรัฐบาลญี่ปุ่นได้ติเตียนอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วแล้ว และยังมีเพื่อนนักการเมืองญี่ปุ่นอีกหลายคนที่เรียกร้องให้ ส.ว.ผู้นี้ลาออก ซึ่งคิมูระคิดว่าการที่ยามาโมโตะได้ออกมาขอโทษนั้นถือว่าเพียงพอแล้ว
ทางด้านตำรวจญี่ปุ่นเผยว่า จะมีการสืบสวนหาต้นตอผู้ส่ง และยังจะเพิ่มมาตรการป้องกันความปลอดภัยให้กับยามาโมโตะ เพื่อป้องกันการถูกลอบสังหาร ทางด้านยามาโมโตะที่เคยรณรงค์ต่อต้านนิวเคลียร์มาตลอด ได้ก้าวออกมาขอโทษกับประชาชนแต่เขาปฏิเสธที่จะลาออกจากตำแหน่ง และเขายังป้องว่าไม่ได้ฉวยโอกาสทางการเมืองยามเมื่อได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดิ ซึ่งยามาโมโตะได้ให้เหตุผลในการถวายสารแด่องค์พระจักรพรรดิในครั้งนั้นว่า ต้องการทูลให้พระองค์ทราบถึงสถานการณ์แท้จริงด้านนิวเคลียร์ในประเทศโดยเฉพาะเด็กๆ ที่ได้รับอันตรายจากกัมมันตภาพรังสี และยังแสดงถึงความกังวลต่อวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ อย่างไรก็ตามหลังจากถูกสภาสูงญี่ปุ่นตั้งคณะกรรมการพิจารณาโทษ ซึ่ง ส.ว.ผู้นี้กล่าวว่า เขาไม่เคยทราบมาก่อนว่าสิ่งที่เขาได้กระทำนั้นผิดกฎเกณฑ์ แต่อย่างไรก็ตามเขาพร้อมจะน้อมรับการลงโทษ ซึ่งในที่สุด ยามาโมโตะถูกสั่งห้ามให้เข้าร่วมการประชุมสภาสูงญี่ปุ่นหากมีสมาชิกของราชวงศ์แดนอาทิตย์อุทัยเข้าร่วมด้วยในครั้งนั้น