เอพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ชาวแอลเบเนียสนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลของตน ที่ประกาศไม่ยอมรับให้นานาชาตินำอาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรีย มาทำลายในแผ่นดินแอลเบเนีย
รายงานข่าวล่าสุดจากกรุงติรานา ระบุว่า ประชาชนชาวแอลเบเนียส่วนใหญ่ ต่างมีปฏิกิริยาในเชิงบวกต่อการตัดสินใจของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี เอดี รามา และพรรคสังคมนิยมที่ปฏิเสธไม่ยอมรับการนำอาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรีย เข้ามาทำลายทิ้งในประเทศ
โดยผลสำรวจความคิดเห็นจากสื่อสำนักต่างๆ ในแอลเบเนียระบุ รัฐบาลของตนทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และเป็นการตัดสินใจที่ทำให้ชาวแอลเบเนียเกือบ 3 ล้านคนทั่วประเทศ กลับมามีความภาคภูมิใจในประเทศชาติของตนอีกครั้ง
เบน บลูชี แกนนำของพรรคสังคมนิยมของนายกรัฐมนตรีรามาเผยต่อผู้สื่อข่าวในวันเสาร์ (16) โดยระบุ ประเทศของตนได้แสดงออกอย่างชัดเจนถึงการตัดสินใจอย่างมีความรับผิดชอบและมโนสำนึกในเรื่องนี้ ขณะที่บรรดาพรรคการเมืองฝ่ายค้านต่างออกมาแสดงการสนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลเช่นกัน
“สหรัฐฯเป็นตัวตั้งตัวตีสำคัญที่พยายามเข้าไปแทรกแซงวิกฤตในซีเรีย ในเมื่อรัฐบาลอเมริกันเป็นฝ่ายที่ต้องการปลดอาวุธเคมีของฝ่ายรัฐบาลซีเรีย แล้วทำไมรัฐบาลอเมริกันจึงไม่นำอาวุธร้ายแรงชนิดนี้เข้าไปทำลายทิ้งในแผ่นดินของตัวเอง” บลูชีกล่าว
ด้านเจนนิเฟอร์ เรเน ซากี โฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาแถลงที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ยอมรับการตัดสินใจของรัฐบาลแอลเบเนีย พร้อมย้ำว่า ท่าทีล่าสุดของรัฐบาลแอลเบเนียภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี เอดี รามา จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างวอชิงตันและติรานา
ทั้งนี้ ตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ผ่านออกมาเมื่อเดือนกันยายน อาวุธยุทโธปกรณ์ของซีเรียจะต้องถูกทำลายภายในวันที่ 30 มิถุนายน ปี 2014 โดยแอลเบเนียถือเป็นประเทศที่สองต่อจากนอร์เวย์ที่ปฏิเสธการนำอาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรียเข้ามาทำลายในประเทศของตน
ขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศสและเบลเยียมที่ถูกเสนอให้มีส่วนร่วมในการจัดการกับอาวุธเคมีน้ำหนักราว 1,000 ตันจากซีเรีย ก็ยังคงไม่ตอบรับในการทำหน้าที่ดังกล่าว
