เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี เอดี รามา แห่งแอลเบเนียแถลงวานนี้ (12 พ.ย.) ว่าประเทศของเขายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะรับอาสาเป็นสถานที่ในการทำลายอาวุธเคมีของซีเรียหรือไม่ ในเวลาที่ประชาชนหลายร้อยคนพากันออกมาประท้วงแผนดำเนินการดังกล่าว
“ยังไม่มีการตัดสินใจในตอนนี้” รามา ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ถึงแม้ยอมรับว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาได้พูดคุยกับจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ทางโทรศัพท์ “เพื่อหารือกันถึงประเด็นนี้” นาน 30 นาที
แอลเบเนีย ตลอดจน ฝรั่งเศส และเบลเยียม ถูกเสนอให้เป็นสถานที่ทำลายอาวุธเคมีทั้งหมดในคลังแสงของซีเรีย ซึ่งประมาณการว่ามีน้ำหนักราว 1,000 ตัน
รามากล่าวว่า บรรดาเจ้าหน้าที่ของแอลเบเนียกำลัง “อภิปราย” ร่วมกับตัวแทนของนาโต (NATO) ถึงความเป็นไปได้ในการทำลายคลังแสงอาวุธเคมี โดยระบุเพิ่มเติมว่า หากมีการตัดสินใจใดๆ ก็จะแจ้งให้ประชาชนและรัฐสภาแอลเบเนียทราบ
ทางด้านนักเคลื่อนไหวราว 300 คนได้ออกมารวมตัวกันหน้ารัฐสภา ในกรุงติรานา เมืองหลวงของแอลเบเนีย พร้อมกับร้องตะโกนว่า “อย่านำอาวุธเคมีเข้ามา!” ก่อนจะพากันเดินขบวนไปยังสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
“เราไม่ได้ต้องการต่อต้านสหรัฐฯ แต่เราต่อต้านอาวุธเคมี” ซาซาน กูรี จาก “พันธมิตรต่อต้านการนำเข้าวัตถุอันตราย” ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนปราศรัยกับกลุ่มผู้ประท้วง
บรรดานักเคลื่อนไหวเน้นย้ำว่า แอลเบเนียไม่มีขีดความสามารถในการทำลายอาวุธ และบอกว่าไม่ต้องการเป็นสถานที่ทิ้งเศษซากของอาวุธพวกนี้
นอกจากนี้ เบลนดี คัจเซีย นักรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมคนหนึ่งได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ “ทำงานอย่างโปร่งใส และเปิดเผยการตัดสินใจของรัฐบาลแอลเบเนียให้ประชาชนรับรู้”
ทั้งนี้ ตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ผ่านออกมาเมื่อเดือนกันยายน อาวุธยุทโธปกรณ์ของซีเรียจะต้องถูกทำลายภายในวันที่ 30 มิถุนายน ปี 2014
เมื่อ 6 ปีที่แล้ว มีการยืนยันว่าแอลเบเนียได้ทำลายอาวุธเคมีในคลังแสงของตนแล้ว ซึ่งเป็นส่วนที่ตกค้างมาจากสมัยระบอบปกครองคอมมิวนิสต์
ส่วน นอร์เวย์ ซึ่งเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ถูกเสนอชื่อให้เป็นสถานที่ทำลายอาวุธเคมีของซีเรีย ก็ได้ปฏิเสธไม่ขอรับอาสาทำหน้าที่นี้