รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี เบนิโญ อากีโน แห่งฟิลิปปินส์ ยืนยันว่ายอดผู้เสียชีวิตจากมหาไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน (Haiyan) ที่พัดถล่มตอนกลางของประเทศเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังอยู่ที่ 2,000-2,500 คน ส่วนที่ทางการท้องถิ่นประเมินไว้สูงถึง 10,000 คนนั้นเป็นการคาดเดาที่ “สูงเกินจริง”
หายนะจากไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนนั้นหนักหนาสาหัสเกินกว่าที่รัฐบาลฟิลิปปินส์จะรับมือไหว โดยเฉพาะที่เมืองตาโกลบัน เมืองเอกของจังหวัดเลย์เต ซึ่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคาดว่าจะมีประชาชนเสียชีวิตจากมหาวาตภัยครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 10,000 คน ส่วนใหญ่เป็นการจมน้ำเสียชีวิตเนื่องจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังไม่สามารถเข้าถึงอีกหลายเมืองและหมู่บ้านที่อยู่ในเส้นทางผ่านของไห่เยี่ยน แม้เหตุการณ์จะผ่านพ้นมา 5 วันแล้วก็ตาม
อากีโนยืนยันว่า รัฐบาลได้ทำเต็มที่เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลจากพื้นที่ประสบภัย และคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตคงจะเพิ่มสูงขึ้นอีก
“ยอดตาย 10,000 คน ผมคิดว่ามันมากเกินไป... การประเมินตัวเลขสูงขนาดนี้คงเกิดจากอารมณ์ความรู้สึกด้วย” อากีโนให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น
“เราหวังว่าอีกไม่ช้าคงจะสามารถติดต่อเทศบาลอีก 29 แห่งได้ เพื่อประเมินจำนวนพลเมืองที่ตกเป็นเหยื่อพายุ โดยเฉพาะผู้ที่ยังสูญหาย แต่เวลานี้ยอดผู้เสียชีวิตที่เราทราบมาอยู่ที่ 2,000-2,500 คน”
ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจากไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนยังคงอยู่ที่ 1,774 คน ตามข้อมูลจากรัฐบาลมะนิลาเมื่อวานนี้ (12) ซึ่งเป็นตัวเลขที่องค์กรบรรเทาทุกข์ต่างๆ เชื่อว่า “คลาดเคลื่อน” ไปมาก
เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์หลายคนรู้สึกกังขาที่ อากีโน ประเมินตัวเลขผู้เสียชีวิตไว้ต่ำขนาดนั้น
“ผู้เสียชีวิตน่าจะเพิ่มขึ้นอีก เวลานี้ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ กำลังทยอยเข้ามา และยังมีอีกหลายพื้นที่ที่เราเข้าไม่ถึง” เกวนโดลีน ปัง เลขาธิการสภากาชาดฟิลิปปินส์ ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
จำนวนผู้สูญหายเบื้องต้นที่สภากาชาดฟิลิปปินส์ประเมินไว้อยู่ที่ราวๆ 22,000 คน ซึ่ง ปัง ชี้ว่า อาจจะหมายรวมถึงผู้ที่หาตัวพบแล้วด้วย “เพราะมีชาวบ้านบางคนเข้ามาร้องเรียนคนหาย แต่เมื่อหากันพบแล้วก็ไม่กลับมาแจ้ง”
องค์การสหประชาชาติระบุว่า มีชาวฟิลิปปินส์ต้องพลัดถิ่นฐานเพราะไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนราว 670,0000 คน และส่วนใหญ่ยังคงปราศจากทั้งยา, อาหาร และน้ำดื่มประทังชีวิต
ประธานาธิบดีอากีโนได้ประกาศภาวะภัยพิบัติแห่งชาติ พร้อมส่งทหารหลายร้อยนายลงพื้นที่เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย หลังมีข่าวการปล้นสะดมร้านค้าภายในเมืองตาโกลบัน ซึ่งเคยเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่นถึง 220,000 คน แต่เวลานี้เสียหายย่อยยับแทบไม่ต่างจากเมืองขยะ