เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - ราคาน้ำมันขึ้นวานนี้(11) หลังการเจรจาโน้มน้าวให้อิหร่านล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์มีความคืบหน้า ส่วนวอลล์สตรีทบวกเล็กน้อย หลังทะยานขึ้นแรงในช่วงปลายสัปดาห์ สวนทางกับทองคำที่ปิดลบ ด้วยความกังวลว่าเฟดจะลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 54 เซนต์ ปิดที่ 95.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.28 ดอลลาร์ ปิดที่ 106.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แม้ว่าการเจรจาระหว่างอิหร่านกับชาติมหาอำนาจ จะยังไม่บรรลุข้อตกลงที่อาจนำมาซึ่งการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเตหะรานและนำผู้ผลิตน้ำมันสำคัญกลับสู่ตลาดโลก ทว่าการพูดคุยกันอย่างมาราธอนที่ได้เห็นคณะผู้แทนสหรัฐฯและอิหร่านหารือกันนานกว่า 7 ชั่วโมงก็เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษตามหลังปฏิวัติอิหร่านปี 1979
กลุ่มชาติมหาอำนาจ 5+1 อันประกอบด้วย อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐฯ รัสเซีย จีน ร่วมด้วย เยอรมนี วางแผนพบกับคณะผู้แทนจากอิหร่านอีกครั้งในวันที่ 20 พฤศจิกายน เพื่อหวังบรรลุข้อตกลงระยะสั้นที่อาจระงับกิจกรรมนิวเคลียร์ของเตหะรานไว้ก่อนระหว่างสองฝ่ายเจรจาต่อรองเพื่อให้ได้ข้อตกลงที่ครอบคลุม
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกเล็กน้อยวันจันทร์(11) นักลงทุนพักหายใจหายคอ หลังในวันศุกร์(8) พุ่งแรง ตามหลังข้อมูลที่สดใสของภาคแรงงาน เช่นเดียวกับตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอเมริกา
ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 20.81 จุด (0.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,782.52 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.23 จุด (0.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,771.84 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 0.56 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,919.79 จุด
อย่างไรก็ตามราคาทองคำวานนี้(11) ขยับลงเล็กน้อย หลังข้อมูลภาคแรงงานอันแข็งแกร่งของสหรัฐฯ ก่อความกังวลว่าธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) อาจลดระดับการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วๆนี้ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,281.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม