มาเลเซียยื่นหนังสือประท้วง “สหรัฐฯ-ออสเตรเลีย” ฐานร่วมกัน “สอดแนม”

เอเอฟพี – รัฐบาลมาเลเซียเรียกหัวหน้าคณะผู้แทนการทูตของสหรัฐฯและออสเตรเลียเข้าพบ เพื่อประท้วงข่าวการสอดแนม กระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียแถลงวันนี้ (2) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความขัดแย้งที่เกิดจากพฤติกรรมสอดแนมอย่างกว้างขวางของสหรัฐฯ กำลังลุกลามสู่ทวีปเอเชีย

ก่อนหน้านี้ จีนและอินโดนีเซียก็ได้ขอคำอธิบายจากผู้แทนการทูตออสเตรเลีย หลังมีรายงานว่าคณะทูตแดนจิงโจ้สอดแนมการใช้โทรศัพท์และรวบรวมข้อมูลส่งให้รัฐบาลสหรัฐฯ

สัปดาห์นี้ หนังสือพิมพ์ ซิดนีย์ มอร์นิง เฮรัลด์ ได้ตีพิมพ์ “แผนที่ลับสุดยอด” จาก เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ซึ่งระบุว่าสหรัฐฯ มีหน่วยสอดแนมประจำอยู่ตามสถานทูตทั่วโลก รวมถึงที่กัมพูชา, จีน, อินโดนีเซีย, มาเลย์เซีย, พม่า และไทย

รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย อานิฟะห์ อะมาน เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้เรียกพบหัวหน้าคณะผู้แทนการทูตสหรัฐฯและออสเตรเลียเมื่อวานนี้ (1) “เพื่อยื่นหนังสือประท้วงกิจกรรมสอดแนมที่ทั้ง 2 สถานทูตในกรุงกัวลาลัมเปอร์ได้กระทำ” โดยฝ่ายสหรัฐฯนั้นมี อัครราชทูต ลี แม็คเคนนีย์ เป็นผู้แทนรับหนังสือประท้วง เนื่องจากเอกอัครราชทูตเดินทางไปนอกเมือง

อานิฟะห์ ยังได้พบกับรัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย จูลี บิชอป ในการหารือนอกรอบระหว่างการประชุมระดับภูมิภาคที่เมืองเพิร์ธ และได้แสดง “ความกังวลอย่างยิ่งต่อรายงาน (ที่อ้างถึงปฏิบัติการสอดแนมของออสเตรเลีย) ซึ่งได้สร้างความโกรธเคืองอย่างยิ่งต่อประชาชนชาวมาเลเซีย”

“ท่านรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่า กิจกรรมเช่นนี้ผู้เป็นมิตรสนิทเขาไม่ทำกัน เพราะอาจจะทำลายความสัมพันธ์อันดีที่มีอยู่” ถ้อยแถลงจากกระทรวงการต่างประเทศแดนเสือเหลืองระบุ พร้อมชี้ว่ารัฐมนตรีทั้ง 2 ชาติจะร่วมกันประคับประคองสถานการณ์ไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ระหว่างกัน

ด้านอินโดนีเซียก็ได้เรียกทูตสหรัฐฯและออสเตรเลียเข้าพบ โดยรัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์ตี นาตาเลกาวา แห่งเมืองอิเหนา ตำหนิพฤติกรรมสอดแนมที่ตกเป็นข่าวว่า “ไม่แฟร์เลย”

อย่างไรก็ดี ปฏิกิริยาตอบสนองจากประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อื่นๆ ยังคงไม่ชัดเจน โดยรัฐบาลกัมพูชา, พม่า และไทย ดูเหมือนจะพยายามกลบกระแสเรื่องนี้ให้เงียบลง