รอยเตอร์ – แกนนำระดับสูงของกลุ่มติดอาวุธตอลิบานในปากีสถานเสียชีวิตแล้วจากปฏิบัติการโจมตีโดยเครื่องบินไร้คนขับของสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (1) แหล่งข่าวด้านความมั่นคงและสมาชิกในกลุ่มตอลิบานเองเผย
ฮากิมุลเลาะห์ เมห์ซูด เป็นหนึ่งในแกนนำระดับหัวหน้าของตอลิบานซึ่งสหรัฐฯต้องการตัวมากที่สุด โดยมีค่าหัวสูงถึง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 156 ล้านบาท) และเป็นผู้บัญชาการก่อความไม่สงบจากฐานที่มั่นในจังหวัดวาซิริสถานเหนือ บริเวณพรมแดนอัฟกานิสถาน
ผู้บัญชาการอาวุโสคนหนึ่งของตอลิบานให้สัมภาษณ์ว่า “เรายืนยันด้วยความเศร้าเสียใจอย่างยิ่งว่า ผู้นำที่เราเคารพยิ่งได้สละชีพแล้วโดยปฏิบัติการเครื่องบินไร้คนขับของอเมริกา”
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม 2 คนในวอชิงตันก็ยืนยันเช่นกันว่า เมห์ซูด ถูกสังหารด้วยโดรนของสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ)
เคทลิน เฮย์เดน โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ แถลงว่า หากการตายของ เมห์ซูด เป็นความจริงก็จะถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ต่อตอลิบานปากีสถาน ซึ่งเคยออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อแผนโจมตีจตุรัสไทม์สแควร์ในนครนิวยอร์กเมื่อปี 2010 ที่ไม่ประสบความสำเร็จ และ เมห์ซูด ก็ถูกสหรัฐฯตามล่าตัวเนื่องจากมีส่วนพัวพันกับเหตุสังหารลูกจ้างซีไอเอ 7 คนในอัฟกานิสถาน เมื่อปี 2009
อย่างไรก็ดี การสังหาร เมห์ซูด อาจทำลายโอกาสที่นายกรัฐมนตรี นาวาซ ชารีฟ แห่งปากีสถานจะเปิดเจรจาสันติภาพกับตอลิบานได้ หลังจากที่ชนะเลือกตั้งถล่มทลายเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยคำมั่นสัญญาว่าจะนำสันติสุขกลับคืนสู่ประเทศ
บรูซ รีเดล อดีตซีไอเอและเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวผู้มีประสบการณ์โชกโชนในแถบเอเชียใต้ ระบุว่า รัฐบาลปากีสถานเคยแจ้งให้สหรัฐฯ และอังกฤษ ทราบว่า การเจรจาสันติภาพกับตอลิบานมีความเป็นไปได้สูง
“ดังนั้น ปฏิบัติการโดรนครั้งนี้จึงเป็นเรื่องผิดกาลเทศะที่ทำให้ ชารีฟ ตกอยู่ในที่นั่งลำบาก พวกที่เชื่อทฤษฎีสมคบคิดอาจจะมองว่า เขาเห็นด้วยกับการโจมตี ทั้งๆ ที่เชื้อเชิญให้กลุ่มติดอาวุธมาร่วมเจรจาสันติภาพแล้ว”
