เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - มีผู้โดยสารเสียชีวิตอย่างน้อย 44 ราย หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้บนรถบัสโดยสารคันหนึ่งทางภาคใต้ของอินเดียในวันพุธ (30) โดยโศกนาฏกรรมครั้งนี้มีที่มาจากการระเบิดของ “ถังเก็บเชื้อเพลิง” ของรถ
รายงานข่าวซึ่งอ้าง “เวนกาเตชวาร์ลู” โฆษกตำรวจในพื้นที่ระบุว่า เหตุไฟไหม้บนรถโดยสารครั้งนี้ เกิดขึ้นบนทางหลวงสายหนึ่งที่เชื่อมระหว่างเมืองบังกาลอร์ในรัฐกรณาฎกะ และเมืองไฮเดอราบัดในรัฐอานธรประเทศ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 44 รายจากทั้งหมด 49 ชีวิตที่อยู่บนรถโดยสารคันดังกล่าว
ข้อมูลของตำรวจอินเดียยังระบุว่า มีผู้รอดชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้เพียง 5 รายเท่านั้น ซึ่งในจำนวนนี้ มีคนขับรถบัสและพนักงานทำความสะอาดประจำรถรวมอยู่ด้วย โดยมีรายงานว่าคนขับรถบัสและพนักงานดูแลความสะอาดตัดสินใจทุบกระจกรถหนีเอาชีวิตรอดออกมาก่อนที่ไฟจะลุกท่วมตัวรถ และทั้งสองคนพยายามหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ แต่ถูกตำรวจรวบตัวไว้ได้ และถูกนำตัวไปสอบสวนแล้ว ขณะที่ผู้รอดชีวิตอีก 3 คนถูกนำไปรักษาอาการบาดเจ็บยังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียง
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานสถิติอาชญากรรมแห่งชาติของอินเดียที่เคยมีการเผยแพร่เมื่อปี 2011 ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 131,834 รายจากอุบัติเหตุบนท้องถนนในอินเดีย ขณะที่สภาพถนนที่เลวร้าย การขับขี่ยานพาหนะด้วยความเร็ว และพฤติกรรมการขับขี่ที่ย่ำแย่ ล้วนเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุในแดนโรตีทั้งสิ้น
ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม เพิ่งเกิดอุบัติเหตุรถบัสโดยสารที่มีผู้โดยสารเกินพิกัด พุ่งตกลงไปในแม่น้ำสายหนึ่งในรัฐหิมาจัลประเทศทางตอนเหนือของอินเดีย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 33 ราย
ด้านองค์การอนามัยโลกเผยรายงานด้านความปลอดภัยบนท้องถนนประจำปี 2013 ซึ่งมีข้อมูลว่าราว 8 เปอร์เซ็นต์ของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนในอินเดีย คือ คนขับรถโดยสารหรือผู้โดยสารรถสาธารณะ ขณะที่ผู้เสียชีวิตราว 32 เปอร์เซ็นต์ เป็นผู้ขี่จักรยานยนต์หรือรถสามล้อ