เอเอฟพี – เกิดเหตุน้ำท่วมระลอกใหม่ในภาคตะวันออกของอินเดีย คร่าชีวิตประชาชนไปอย่างน้อย 18 ราย ในพื้นที่เดียวกันกับที่เมื่อกลางเดือนนี้เพิ่งถูกพายุไซโคลนครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 10 ปี พัดถล่ม ทางการอินเดียระบุวันเสาร์ (26 ต.ค.)
ฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนัก ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายต่างๆ ของรัฐโอริสสา และอานธรประเทศ ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกของอินเดียขึ้นสูงจนล้นตลิ่ง บีบให้ชาวบ้านหลายพันหลายหมื่นคนต้องละทิ้งบ้านเรือน แล้วย้ายไปอาศัยตามศูนย์อพยพหลบภัย ภายหลังที่เมื่อสองสัปดาห์ก่อน มีพายุไซโคลนกำลังแรงที่สุดในรอบ 14 ปีพัดถล่มพื้นที่ตามแนวชายฝั่งแถบนี้มาแล้ว
“ข้อมูลล่าสุดที่เราทราบคือ มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 18 ราย” ในทั้งสองรัฐ ตรีปี ปารูล โฆษกหญิงของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติอินเดียให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเอเอฟพี
ทางด้าน สื่ออินเดียหลายเจ้ารายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 30 ราย ในเหตุน้ำท่วม ซึ่งทำให้ต้องหยุดการเดินรถไฟในทั้งสองรัฐ
โฆษกสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติอินเดียกล่าวว่า หน่วยกู้ภัยราว 30 ทีม ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้เข้าร่วมปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัยในสองรัฐ เพื่อซ่อมแซมบ้าน และฟื้นฟูสาธารณูปโภคต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายจากพายุไซโคลน “ไพลิน” ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ ขณะนี้กำลังระดมกำลังช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว
“ทางสำนักงานได้เตรียมพร้อมเพื่อรับมือสถานการณ์เช่นนี้หลังเกิดพายุไซโคลนไพลินไว้แล้ว การจัดหาข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม และยารักษาโรค ... ทั้งหมดนี้อยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละรัฐ” ปารูลกล่าว โดยเสริมว่า เธอหวังว่าระดับน้ำจะลดลงภายใน 48 ชั่วโมง
เมื่อช่วงกลางเดือนนี้ พายุไซโคลนไพลิน ซึ่งพัดกระหน่ำรัฐชายฝั่ง ทางตะวันออกของอินเดีย โดยมีกำลังแรงกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้คร่าชีวิตประชาชนไปอย่างน้อย 22 ราย และทำให้ต้นไม้จำนวนมากหักโค่น รถบรรทุกหงายตะแคง เสาไฟฟ้าล้มระเนระนาด ตลอดจนเกิดน้ำท่วมเรือกสวนไร่นาเป็นบริเวณกว้าง
