xs
xsm
sm
md
lg

‘สเปน’ รีบเรียกทูต US ชี้แจงหลังสื่อแฉ 1 เดือน NSA ดักฟัง ‘กระทิงดุ’ 60 ล้านสาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจมส์ คอสโตส เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำสเปน ขณะออกมาจากกระทรวงการต่างประเทศสเปน ในกรุงมาดริด เมื่อวันจันทร์ (28 ต.ค.) ภายหลังถูกเรียกตัวไปพบเพื่อชี้แจงรายงานข่าวที่สื่อเปิดโปงว่า อเมริกาแอบดักฟังโทรศัพท์ในสเปนถึงกว่า 60 ล้านสายภายในเวลาเดือนเดียว
เอเจนซีส์ - สเปนเรียกร้องในวันจันทร์ (28 ต.ค.) ให้สหรัฐฯ เผยรายละเอียดภายหลังมีรายงานข่าวระบุว่า อเมริกาดักฟังโทรศัพท์ของชาวแดนกระทิงดุ 60 ล้านสายภายในเวลาเดือนเดียว ขณะที่สำนักข่าวเกียวโดเปิดเผยว่า สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของแดนอินทรีเคยขอให้ญี่ปุ่นช่วยสอดแนมจีน แต่โตเกียวไม่เล่นด้วย

กระทรวงการต่างประเทศสเปนแถลงว่า ได้เรียก เจมส์ คอสโตส เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำกรุงมาดริดเข้าพบเพื่อขอคำอธิบายเรื่องการแอบสอดแนมพลเมืองธรรมดาสามัญของตนตามที่ปรากฏในรายงานข่าว

คำแถลงของกระทรวงระบุว่า ฝ่ายตนได้ชี้ให้สหรัฐฯ เห็นว่า “เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องรักษาบรรยากาศแห่งความไว้วางใจกันซึ่งเป็นสิ่งที่ปกปักคุ้มครองความสัมพันธ์ทวิภาคีของสองประเทศอยู่ในเวลานี้” อีกทั้งแจ้งให้ทราบว่า ถ้าหากฝ่ายสหรัฐฯกระทำการดักฟังอย่างกว้างขวางตามรายงานข่าวแล้ว ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ “ไม่เหมาะสมและไม่สามารถยอมรับได้ในระหว่างประเทศที่เป็นหุ้นส่วนกันและเป็นเพื่อนมิตรกัน”

เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสเปนเรียกเอกอัครราชทูตสหรัฐฯมาพบ เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก หนังสือพิมพ์แดนกระทิงดุ 2 ฉบับ คือ เอลเปส และ เอลมุนโด รายงานในฉบับวันจันทร์โดยอ้างอิงเอกสารลับจาก “จอมแฉ” เอดเวิร์ด สโนว์เดน ว่า สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอ็นเอสเอ) ได้ดักฟังโทรศัพท์ในสเปน 60.5 ล้านสาย ตลอดจนข้อความ และอีเมล ภายในเวลาเพียงเดือนเดียวระหว่างวันที่ 10 ธันวาคม 2012 ถึงวันที่ 8 มกราคมปีนี้ โดยเป็นการเก็บหมายเลขและบันทึกต้นทางกับปลายทางของการโทรศัพท์ติดต่อ แต่ไม่ได้เก็บเนื้อหาการโทรศัพท์แต่อย่างใด

ในอีกด้านหนึ่ง สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานว่า เอ็นเอสเอเคยขอให้รัฐบาลญี่ปุ่นช่วยตรวจสอบเครือข่ายใยแก้วนำแสงที่เป็นช่องทางการสื่อสารส่วนบุคคลที่ทอดผ่านญี่ปุ่นไปยังเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อดักฟังการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ของจีน แต่โตเกียวปฏิเสธโดยอ้างข้อจำกัดทางกฎหมายและการขาดแคลนบุคลากร

ทางด้านหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลฉบับวันจันทร์ (28) รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อเมริกันที่ไม่ประสงค์ออกนามซึ่งยืนยันว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา รู้เรื่องการสอดแนมระบบอิเล็กทรอนิกส์จากการตรวจสอบภายในเมื่อกลางปีที่ผ่านมา

การตรวจสอบตามคำสั่งของผู้นำสหรัฐฯ พบว่า สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) ดักฟังโทรศัพท์ผู้นำ 35 ชาติทั่วโลก ซึ่งรวมถึงนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี

อย่างไรก็ดี แม้ทำเนียบขาวสั่งให้ยุติการดำเนินการนี้แล้ว แต่บางโครงการเพียงแค่ยุติเท่านั้น ไม่ได้เลิกล้มแต่อย่างใด

วอลล์สตรีทฯ ยังรายงานว่า ผู้นำสหรัฐฯ ได้รับฟังบรรยายสรุปและอนุมัติเฉพาะปฏิบัติการรวบรวมข่าวกรองที่สำคัญ โดยที่บรรดาผู้ทำงานให้ประธานาธิบดีในด้านต่างๆ จะทำหน้าที่ตัดสินใจเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ทำให้โอบามาไม่ล่วงรู้ปฏิบัติการทั้งหมด

นอกจากนี้ การยุติโครงการสอดแนมยังมีความซับซ้อน เนื่องจากผู้นำระดับโลกอย่างเช่นแมร์เคิล อาจสื่อสารกับผู้นำคนอื่นที่วอชิงตันยังคงติดตามดักฟังอยู่

รายงานของวอลล์สตรีทมีเนื้อหาเป็นการแย้งกับข่าวของหนังสือพิมพ์ บิลด์ อัน ซอนทาก ของเยอรมนี ฉบับอาทิตย์ที่ผ่านมา (27 ต.ค.) โดย บิลด์ ได้อ้างแหล่งข่าวในหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ว่า พลเอก คีธ อเล็กซานเดอร์ ผู้อำนวยการเอ็นเอสเอ ได้บรรยายสรุปให้โอบามาทราบตั้งแต่ปี 2010 ว่ามีการดักฟังโทรศัพท์แมร์เคิล ที่เริ่มต้นเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว

ทว่า วานี ไวนส์ โฆษกเอ็นเอสเอได้ออกมาปฏิเสธทันทีว่า รายงานข่าวของหนังสือพิมพ์เยอรมนีนี้ไม่มีมูล
กำลังโหลดความคิดเห็น