เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ตำรวจมัลดีฟส์ประกาศเลื่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่มีขึ้นในวันเสาร์ (19) โดยอ้างเหตุผลว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่สร้างความกังวลใจให้กับนานาชาติถึงสถานการณ์ด้านประชาธิปไตยในหมู่เกาะแห่งนี้
ฟูวัด ธาวฟีค ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งของมัลดีฟส์ออกมาแถลงยืนยันว่า จะมีการประกาศกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ต่อไป หลังจากที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันเสาร์ (19) ถูกขัดขวางโดยสำนักงานตำรวจแห่งมัลดีฟส์ (เอ็มพีเอส) ที่ระบุ การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมายและสั่งห้ามเคลื่อนย้ายเอกสารทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ออกจากที่ตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้งอย่างเด็ดขาด
ด้านอับดุลลา นาวาซ โฆษกสำนักงานตำรวจมัลดีฟส์เผยว่าเหตุผลสำคัญที่ทางตำรวจต้องเข้าขัดขวางการเลือกตั้งครั้งนี้มิให้ดำเนินต่อไป เนื่องจาก “บัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง” ยังคงไม่ได้รับการรับรองจากผู้สมัครครบทุกรายตามคำสั่งของศาลสูง เพราะจนถึงขณะนี้เพิ่งมีผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเพียงรายเดียวเท่านั้นที่รับรองบัญชีรายชื่อดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ความเคลื่อนไหวล่าสุดของตำรวจมัลดีฟส์ ในการเข้าขัดขวางการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบชี้ขาดในวันเสาร์ (19) ถูกมองว่า เป็นความพยายามของตำรวจเพื่อขัดขวางไม่ให้อดีตประธานาธิบดีโมฮาเหม็ด นาชีด ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง หลังจากที่นาชีดถูกกองกำลังตำรวจใช้ปืนบีบให้ลงจากอำนาจไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศาลสูงของมัลดีฟส์ประกาศให้การเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกเมื่อวันที่ 7 กันยายน เป็นโมฆะ โดยอ้างว่าพบความผิดปกติหลายอย่างในการเลือกตั้งซึ่งผลออกมาว่าอดีตประธานาธิบดีนาชีด วัย 46 ปีเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 45.45 ทั้งๆ ที่บรรดาผู้สังเกตการณ์จากนานาชาติ ต่างลงความเห็นว่าการเลือกตั้งรอบแรกในวันที่ 7 กันยายนเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมแม้นาชีดจะได้คะแนนเสียงไม่ถึงร้อยละ 50 และจำเป็นต้องจัดการเลือกตั้งรอบชี้ขาดขึ้นอีก
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของอินเดียรวมถึงผู้แทนทางการทูตจากหลายชาติในยุโรปต่างออกคำแถลงแสดงความเป็นห่วงถึงสถานการณ์ด้านประชาธิปไตยในมัลดีฟส์ ที่ดูเหมือนทั้งตำรวจและศาลจะทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางไม่ให้โมฮาเหม็ด นาชีดได้หวนคืนสู่อำนาจ โดยไม่คำนึงถึงความสำคัญของกระบวนการประชาธิปไตย
ขณะที่ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของมัลดีฟส์คือโมฮาเหม็ด วาฮีด วัย 60 ปีซึ่งกำลังจะก้าวลงจากอำนาจเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบชี้ขาดขึ้นใหม่ภายในสุดสัปดาห์หน้า โดยระบุ มีเพียงการเลือกตั้งเท่านั้นที่จะยุติวิกฤตทางการเมืองที่รุมเร้าประเทศมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว
ทั้งนี้ โมฮาเหม็ด นาชีด ซึ่งเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2008 ถูกกองกำลังตำรวจบีบบังคับให้ลาออกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ท่ามกลางกระแสข่าวที่ระบุว่า อดีตประธานาธิบดีเมามูน อับดุล กายูมที่ปกครองประเทศมานานกว่า 30 ปีก่อนจะพ่ายแพ้การเลือกตั้งต่อนาชีด คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการยึดอำนาจดังกล่าว เนื่องจากกายูมยังคงมีบทบาทและอิทธิพลครอบงำตำรวจและกระบวนการยุติธรรมของมัลดีฟส์ แม้ตัวเขาจะไม่ได้อยู่ในอำนาจแล้วก็ตาม