เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ศาลสูงมัลดีฟส์ได้สั่งถอด ฟูวาด โธว์ฟีค ประธานคณะกรรมการเลือกตั้งมัลดีฟส์ และอาเหม็ด ฟาเยซ รองประธานคณะกรรมการ ออกจากตำแหน่ง พร้อมทั้งตัดสินโธว์ฟีคลงโทษจำคุก 6 เดือน แต่ให้รอลงอาญาไว้ 3 ปี หลังจากที่โธว์ฟีคปฏิเสธไม่ปฏิบัติตามแนวทางปฎิบัติของศาล และยังวิจารณ์คณะผู้พิพากษาในเหตุโกลาหลการเลือกตั้งประธานาธิบดีมัลดีฟส์ในปี 2013 ด้าน เอดูอาร์ด คูแคน หัวหน้าผู้สังเกตการณ์จากสหภาพยุโรป รับรองการทำงานของโธว์ฟีคว่า ทำให้การเลือกตั้งมัลดีฟส์โปร่งใส พร้อมจะศึกษาคำพิพากษาของศาลสูงมัลดีฟส์
ยังไม่ทันข้ามคืนที่ 4หลังจากที่มีการเลือกตั้งทั่วไปมัลดีฟส์ แต่ทว่า ฟูวาด โธว์ฟีค ประธานคณะกรรมการเลือกตั้งมัลดีฟส์ และอาเหม็ด ฟาเยซ รองประธานคณะกรรมการ ได้ถูกปลดออกจากตำแหน่งจากความผิดไม่เชื่อฟังและต่อต้านคำสั่งของศาล ซึ่งคำพิพากษาครั้งนี้ออกภายใต้ความรับผิดชอบที่เป็น “ผู้ปกป้องรัฐธรรมนูญ” สื่อออนไลน์ท้องถิ่นมัลดีฟ มินิแวนนิวส รายงาน
และโธว์ฟีคยังถูกสั่งจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน แต่ให้รอลงอาญา 3 ปี จากคำพิพากษาที่ออกเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ (9) นอกจากนี้ศาลสูงมัลดีฟส์ยังได้ขอให้รัฐสภามัลดีฟส์ดำเนินการสรรหาประธานและรองประธานคณะกรรมการเลือกตั้งคนใหม่ภายใน 6 วัน
การพิพากษาครั้งนี้ย้อนกลับไปในเหตุการณ์โกลลาหลในการเลือกตั้งประธานาธิบดีมัลดีฟส์เมื่อปี 2013 ที่ศาลมัลดีฟส์ต้องสั่งให้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกที่ผู้ชนะคือ อดีตประธานาธิบดีมัลดีฟ โมฮัมเหม็ด นาชีด เป็นโมฆะ และได้ประกาศยกเลิกหรือเลื่อนการเลือกตั้งอีก 2 ครั้งในนาทีสุดท้าย
ซึ่งในท้ายที่สุดนาชีดต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้การเลือกตั้งให้กับน้องชายร่วมบิดา ประธานาธิบดีมัลดีฟส์คนปัจจุบัน เมามูน อับดุล กายูม ซึ่งเคยเป็นอดีตผู้นำซึ่งเคยปกครองมัลดีฟส์มานาน 30 ปี ซึ่งพบว่ากายูมได้แต่งตั้งผู้พิพากษาเกือบทั้งหมดที่ทำหน้าที่อยู่ในปัจจุบันนี้ก่อนที่เขาจะเสียเกาอี้ให้กับนาชีดไปในการเลืออกตั้งครั้งแรกของมัลดีฟส์เมื่อปี 2008 และต่างประเทศมองการเลื่อนการเลือกตั้งนี้เป็นเสมือนความพยายามขัดขวางที่จะไม่ให้นาชีดกลับเข้าสู่อำนาจได้อีกครั้ง
โดยโธว์ฟีคได้ให้สัมภาษณ์กับมินิแวนนิวส ยืนยันคำพิพากาษา พร้อมกับกล่าวสงสัยว่าจะให้มีการแต่งตั้งคนใหม่เพื่อทำหน้าที่แทนเขาและรองกกต.ได้อย่างไร โดยโธว์ฟีคถูกลงโทษจากการที่ได้ถกเถียงในเรื่อง “วิธีปฏิบัติที่ทำได้ยาก” ตามคำแนะนำจากศาล
ในเดือนกุมภาพันธ์ล่าสุด ที่ถึงแม้จะมีการห้ามจากศาลไม่ให้เดินหน้า แต่ทว่าคณะกรรมการเลือกตั้งมัลดีฟส์ได้เดินหน้ายุบพรรคการเมืองมัลดีฟส์ถึง 8 พรรคที่มีสมาชิกจำนวนไม่ถึง 3,000 คน ซึ่งการกระทำครั้งนี้เป็นไปตามกฎหมายใหม่ที่รัฐสภามัลดีฟส์เพิ่งผ่านในปี 2013
มัลดีฟส์ที่เป็นสวรรค์นักท่องเที่ยวในระดับบนได้ถูกมรสุมความไม่มั่นคงทางการเมืองกระหน่ำตั้งแต่นาชีดถูกทำรัฐประหารในเดิอนกุมภาพันธ์ 2012 ซึ่งในเหตุครั้งนั้น นาชีดกล่าวว่า เป็นการทำรัฐประหารที่หนุนโดยกองทัพมัลดีฟส์ที่ยังจงรักภักดีกับกายูม
ทางด้านหัวหน้าผู้สังเกตการณ์จากสหภาพยุโรป เอดูอาร์ด คูแคน ได้เปิดเผยว่า หน้าที่ของโธว์ฟีคในฐานะประธานคณะกรรมการเลือกตั้งมัลดีฟส์นั้นสำคัญมากในการทำให้การเลือกตั้งในมัลดีฟส์มีความโปร่งใส รวมถึงทำให้มีความน่าเชื่อในกระบวนการเลือกตั้ง โดยคูแคนกล่าวว่า “ทางหน่วยงานสังเกตการณ์อียูจะศึกษาคำพิพากษาครั้งนี้อย่างละเอียด รวมถึงเหตุผลที่ให้การสนับสนุนการตัดสินครั้งนี้”