เอพี/รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ซาอุดิอาราเบียได้ออกแถลงการผ่านสำนักข่าวของรัฐในวันศุกร์( 18) ปฎิเสธตำแหน่งสมาชิกใหม่แบบไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (U.N. Security Council) เป็นเวลา 2 ปี โดยอ้างว่า ประเทศสมาชิกจำนวน 15 ประเทศในคณะมนตรีความมั่นคงไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งในโลกได้ โดยก่อนหน้านี้ ซาอุดีอาระเบีย ชาด ไนจีเรีย ชิลี และลิธัวเนีย ได้รับการคัดเลือกจากสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ (U.N. General Assembly) ในวันพฤหัสบดี (17) ให้เข้ามาทำหน้าที่เป็นสมาชิกใหม่แบบไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (U.N. Security Council) เป็นเวลา 2 ปี
การประกาศไม่รับตำแหน่งของซาอุดีอาระเบียในครั้งนี้เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากได้รับเสียงสนับสนุนให้เข้าเป็นสมาชิกแบบไม่ถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น โดยรัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดิอาราเบีย เจ้าชายอุด อัล-ไฟซาล ได้ออกแถลงการผ่านสำนักข่าวของรัฐในวันศุกร์ว่า คณะมนตรีความมั่นคงไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาซีเรียได้ และสาเหตุนี้ทำให้รัฐบาลของประธานาธิบดีของซีเรียบาชาร์ อัล-อัสซาด สามารถสังหารประชาชนเป็นจำนวนมาก รวมถึงการใช้อาวุธเคมี โดยปราศจากการถูกลงโทษ
นอกจากนี้เขายังกล่าวต่อไปว่า สมาชิก 15 ประเทศในคณะมนตรีความมั่นคงยังไม่สามารถแก้ปัญหาอิสราเอลและปาเลสไตน์ได้ซึ่งเกิดขึ้นยาวนานหลายสิบปี และท้ายสุดยังไม่สามารถทำให้ตะวันออกกลางเป็นดินแดนที่ปราศจากอาวุธสังหารอานุภาพสูง
โดยก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวระบุว่า ทั้ง 5 ประเทศต่างได้รับเลือกจากสมาชิก 193 ประเทศของสมัชชาใหญ่ยูเอ็นด้วยคะแนนเสียงข้างมากแบบ 2 ใน 3 ให้เข้ามาทำหน้าที่แทนชาติสมาชิกที่หมดวาระ คือ อาเซอร์ไบจาน กัวเตมาลา ปากีสถาน โมรอกโก และโตโก นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปีหน้าเป็นต้นไป
ในบรรดาสมาชิกใหม่ของคณะมนตรีความมั่นคงฯ ทั้ง 5 ชาติ ลิธัวเนีย ซึ่งเป็นอดีตดินแดนส่วนหนึ่งในสหภาพโซเวียตได้รับคะแนนโหวตมากที่สุดถึง 187 เสียงจากสมาชิก 193 ชาติของสมัชชาใหญ่ รองลงมา คือ ชิลี และไนจีเรีย ที่ได้ไปชาติละ 186 คะแนนเท่ากัน ขณะที่ชาดได้ไป 184 เสียง ส่วนซาอุดีอาระเบียได้รับคะแนนเสียงน้อยที่สุด คือ 176 เสียง
อย่างไรก็ดี การที่ชาดและซาอุดีอาระเบียได้รับเลือกให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน 15 ชาติในคณะมนตรีความมั่นคงฯครั้งนี้ถูก วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากบรรดากลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนที่ระบุว่าทั้งสองประเทศต่างมีประวัติในการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเลวร้าย โดยเฉพาะการกดขี่สตรีเพศ และการละเมิดสิทธิของชนกลุ่มน้อยในซาอุดีอาระเบีย รวมถึงการบังคับเด็กมาเป็นทหารในชาด
ทั้งนี้ สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ “สมาชิกถาวร 5 ชาติ” ซึ่งมีอำนาจในการใช้สิทธิยับยั้ง (veto) คือ สหรัฐฯ รัสเซีย ฝรั่งเศส สาธารณรัฐประชาชนจีน และสหราชอาณาจักร บวกกับสมาชิกแบบไม่ถาวรอีก 10 ชาติที่ได้รับเลือกจากสมัชชาใหญ่ยูเอ็น
