เอเอฟพี - จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เผยในวันพฤหัสบดี (17) ว่าจะมีการลำเลียงคลังอาวุธเคมีของซีเรียออกนอกประเทศ เพื่อทำไปทำลายอย่างปลอดภัยที่ไหนสักแห่ง อย่างไรก็ตามแนวคิดนี้อาจต้องเผชิญความท้าทายสำคัญ เนื่องจากเป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี
ความคิดเห็นของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ รายนี้มีขึ้นขณะที่องค์กรเฝ้าระวังอาวุธเคมีของโลก ได้ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ต่างๆ ในซีเรียได้ถูกระบุว่าเป็นคลังอาวุธเคมีเสร็จสิ้นไปแล้วเกือบครึ่งทาง
อย่างไรก็ตาม นายแคร์รียืนกรานว่า ข้อเท็จจริงที่นายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรียให้ความร่วมมือกับประชาคมนานาชาติในการกำจัดอาวุธเคมี ไม่ช่วยให้เขาได้อยู่ในอำนาจต่อไปและไม่ได้หมายถึงการรับรองความชอบธรรมของผู้นำรายนี้
“ข้อเท็จจริงคืออาวุธเหล่านี้ยังไงก็จะถูกปลดไม่ว่านายอัสซาดจะร่วมมือหรือไม่ เพราะเรารู้ตำแหน่งต่างๆ เหล่านั้นอยู่แล้ว” นายแคร์รีให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุแห่งหนึ่ง “ผมหวังว่าอาวุธเคมีส่วนใหญ่จะถูกเคลื่อนย้ายอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ไปยังสถานที่ที่หนึ่ง จากนั้นก็หวังว่าจะมีการลำเลียงผ่านทางเรือออกไปจากภูมิภาค”
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไม่ได้ลงรายละเอียดใดๆ ขณะที่ดูเหมือนว่าปฏิบัติการดังกล่าวจะถูกทดสอบด้วยความท้าทายทางเทคนิคเช่นเดียวกับความเสี่ยงด้านความน่าเชื่อถือ เนื่องจากภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี มีข้อกำหนดห้่ามประเทศใดๆ เคลื่อนย้ายคลังอาวุธไปยังประเทศอื่นๆ
กระนั้นก็ดี ภายใต้มติสหประชาชาติ 2118 ที่ผ่านการรับรองของสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้ให้อำนาจเข้าช่วยเหลือลำเลียงคลังอาวุธเคมีเพื่อนำไปทำลายในวิธีการที่ปลอดภัยที่สุดและอย่างรวดเร็วที่สุดด้วย
องค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี กำลังเร่งมืออย่างหนักบนกรอบเวลาที่กระชับอย่างมากของมติกำจัดอาวุธเคมีซีเรีย ที่กำหนดให้ดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2014 โดยตอนนี้ทางหน่วยงานได้ดำเนินการตรวจสอบคลังอาวุธเคมีที่แจ้งโดยรัฐบาลนายอัสซาด เสร็จสิ้นแล้ว 11 จาก 20 แห่ง
“เราตรวจสอบคลังอาวุธเคมีต่างๆที่ซีเรียแจ้งกับเราแล้วเสร็จไปแล้วเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์” มาลิค อัลลาฮี ที่ปรึกษาทางการเมืองในซีเรียขององค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี กล่าวในเมืองเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ขณะที่องค์กรเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ มีคณะผู้เชี่ยวชาญกำลังปฏิบัติหน้่าที่ในซีเรียราว 60 คน