xs
xsm
sm
md
lg

รัสเซียเผยได้รับ “หลักฐานใหม่” จากซีเรียที่ยืนยันว่า “กบฏ” เป็นฝ่ายใช้อาวุธเคมี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วาลิด มูอัลเลม รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศซีเรีย (ขวา) ได้หารือร่วมกับ เซอร์เกย์ เรียบคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ที่กรุงดามัสกัส เมื่อค่ำวานนี้(17)
เอเอฟพี – รัสเซียเพิ่งได้รับหลักฐานใหม่ล่าสุดจากซีเรีย ซึ่งบ่งชี้ว่าเหตุการณ์สังหารหมู่ด้วยแก๊สพิษที่ชานกรุงดามัสกัสเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม เป็นฝีมือของฝ่ายกบฏ เซอร์เกย์ เรียบคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเผยวันนี้(18)

สื่อแดนหมีขาวอ้างถ้อยแถลงจาก เรียบคอฟ ซึ่งร่วมประชุมกับรัฐมนตรีต่างประเทศซีเรีย วาลิด มูอัลเลม ที่กรุงดามัสกัสเมื่อค่ำวานนี้ (17) โดย เรียบคอฟ เปิดเผยว่า “รัสเซียได้รับหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สังหารหมู่ ซึ่งอาจบ่งชี้ได้ว่าฝ่ายกบฎเป็นผู้ลงมือใช้อาวุธเคมี” โดยรัฐบาสมอสโกจะตรวจสอบหลักฐานดังกล่าว “อย่างจริงจังที่สุด”

รัสเซียยังคงถือแนวคิดที่ขัดแย้งกับชาติตะวันตก โดยระบุว่า การใช้อาวุธเคมีสังหารพลเรือนกว่าพันศพนั้นอาจเป็นเพียง “แผนยั่วยุ” ของกบฎที่จะทำให้ต่างชาติอดรนทนไม่ได้และต้องส่งทหารเข้าไปแทรกแซงสงครามกลางเมืองซีเรีย

เรียบคอฟ กล่าวอีกว่า รัสเซียรู้สึกผิดหวังกับรายงานของผู้ตรวจสอบจากองค์กรสหประชาชาติว่าด้วยการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย ซึ่งเป็นการเลือกมองเพียงบางมุม และเพิกเฉยต่อข้อมูลแหล่งอื่นๆ

“หากยังไม่ได้ภาพที่ชัดเจน... เราคงมองผลตรวจสอบของยูเอ็นเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากรายงานที่อิงการเมือง, ลำเอียง และเป็นข้อมูลด้านเดียว” รัฐมนตรีผู้นี้กล่าว

เรียบคอฟ เป็นผู้แทนรัฐบาลรัสเซียเดินทางไปยังกรุงดามัสกัส เพื่อนำเสนอข้อตกลงว่าด้วยการปลดอาวุธเคมีซีเรียที่สหรัฐฯ และรัสเซียได้ทำร่วมกันที่นครเจนีวา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

เขาได้ย้ำกับ มูอัลเลม ว่า ซีเรียจำเป็นจะต้องยื่นรายละเอียดเกี่ยวกับคลังอาวุธเคมีให้องค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี (OPCW) ทราบ “อย่างเคร่งครัดและรวดเร็ว” ตามแผนการขั้นแรกที่รัสเซียเสนอ

เรียบคอฟ ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ซีเรียด้วยว่า “ไม่มีเหตุอันควรใดๆ” ที่คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นจะประกาศมติว่าด้วยข้อตกลงปลดอาวุธเคมีซีเรีย โดยอ้างอิงบทบัญญัติที่ 7 ในกฎบัตรสหประชาชาติที่อนุญาตให้นำกำลังทหารเข้าแทรกแซงหรือใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างหนัก เพื่อฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ

แนวทางดังกล่าวจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นสามารถยืนยันได้แน่นอนว่า มีการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี (CWC) เกิดขึ้นจริง เรียบคอฟ ระบุ

ด้าน ริยาด ฮัดดาด ทูตซีเรียประจำกรุงมอสโก ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวอินเทอร์แฟกซ์ว่า เรียบคอฟ มีกำหนดการเข้าพบประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียในวันนี้ (18)
กำลังโหลดความคิดเห็น