เอเจนซีส์ - ไต้ฝุ่น “วิภา” กระหน่ำเกาะทางด้านตะวันอออกของญี่ปุ่นในวันพุธ (16 ต.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 ราย สูญหายมากกว่า 50 คน ประชาชนราว 20,000 คนต้องอพยพหนีอุทกภัยและโคลนถล่ม และเที่ยวบินนับร้อยถูกระงับ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในเหตุแผ่นดินไหวฟิลิปปินส์เมื่อวันอังคาร (15) เพิ่มเป็น 151 รายแล้ว
สถานีทีวีเอ็นเอชเคและสำนักข่าวจิจิ เพรสรายงาน พายุไต้ฝุ่นวิภาซึ่งมีความเร็วลม 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นับเป็นไต้ฝุ่นที่มีความแรงที่สุดที่พัดกระหน่ำญี่ปุ่นในรอบทศวรรษ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน และสูญหาย 51 คนบนเกาะโอชิมะ ที่อยู่ห่างจากโตเกียวทางใต้ราว 120 กิโลเมตร อีกทั้งยังทำให้เกิดโคลนถล่มฝังบ้านเรือนและน้ำท่วมบนเกาะแห่งนี้ที่มีประชากรกว่า 8,300 คน
ผู้เสียชีวิตที่โอชิมา จำนวนมากถูกพบในบ้านซึ่งเสียหายจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและพายุลมแรง โดยมีบ้านบางหลังถูกโคลนฝังครึ่งหลัง บ้างมีซากต้นไม้กองล้อมรอบ
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นระบุว่า อิทธิพลของไต้ฝุ่นวิภาทำให้เกิดฝนตกหนักวัดปริมาณได้มากกว่า 12 เซนติเมตรบนเกาะโอชิมะนาน 1 ชั่วโมง
ชาวบ้านมากมายหนีไปหลบที่ศูนย์อพยพ ขณะที่ตำรวจและพนักงานดับเพลิงเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยบางแห่งอย่างยากลำบาก
นอกจากตำรวจจากโตเกียวแล้ว กระทรวงกลาโหมยังส่งกองกำลังป้องกันตนเองและเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำไปช่วยกู้ภัยที่โอชิมะด้วย
ไต้ฝุ่นวิภายังทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกรรโชกในโตเกียวในชั่วโมงเร่งรีบตอนเช้า ส่งผลต่อการเดินทางของผู้คนนับแสน
มีรายงานยืนยันด้วยว่า หญิงคนหนึ่งได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลทางตะวันตกของเมืองหลวง หลังนำร่างขึ้นมาจากแม่น้ำ จึงทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นลูกนี้เพิ่มเป็น 17 ราย นอกจากนั้นยังมีผู้สูญหายในโตเกียวอีก 3 คน
ทางด้านโฆษกของบริษัทรถไฟฟ้า เคอิไซ อิเล็กทริก เรลเวย์ แถลงว่า ทางรถไฟช่วงหนึ่งทางด้านตะวันออกของโตเกียวได้รับผลกระทบจากโคลนถล่ม ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้ โดยเส้นทางนี้เป็นหนึ่งในเส้นทางไปสู่สนามบินนานาชาตินาริตะ
ขณะเดียวกัน เที่ยวบินกว่า 400 เที่ยวทั้งไปยังและออกจากโตเกียวถูกระงับการให้บริการ ส่วนใหญ่เป็นเที่ยวบินภายในประเทศ ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสาร 61,600 คน
นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แถลงต่อรัฐสภาในวันพุธโดยประกาศว่า จะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อค้นหาผู้สูญหายและช่วยเหลือผู้รอดชีวิต ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะโดยเร็วที่สุด
ทางด้านบริษัทโตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ (เทปโก้) ผู้ดำเนินการโรงงานไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ ที่ได้รับความเสียหายรุนแรงในเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เผยว่า ได้ปล่อยน้ำฝนหลังแนวเขื่อนป้องกันรอบๆ กลุ่มถังเก็บน้ำปนเปื้อนรังสีในโรงงาน ลงสู่ทะเล โดยน้ำเหล่านั้นผ่านการตรวจสอบแล้วว่า มีการปนเปื้อนกัมมันตรังสีในระดับที่ยอมรับได้ พร้อมให้ความมั่นใจว่า ไต้ฝุ่นลูกนี้ไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาใหม่แก่โรงงานที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งห่างจากโตเกียวไปทางเหนือราว 220 กิโลเมตรแต่อย่างใด
อนึ่ง ช่วงบ่ายวันพุธ (ตามเวลาท้องถิ่นของไทย) สำนักงานอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ไต้ฝุ่นวิภาซึ่งไม่ได้พัดเข้าสู่ฝั่งเกาะใหญ่ของญี่ปุ่น ได้เคลื่อนตัวไปอยู่นอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ และอ่อนกำลังลง เป็นเพียงพายุหมุนนอกเขตร้อนแล้ว
สำหรับสถานการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่บริเวณตอนกลางฟิลิปปินส์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารนั้น ล่าสุดมีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 151 คน รวมทั้งเป็นไปได้ว่า ยอดผู้สูญเสียยังอาจเพิ่มขึ้นต่อไป