เอเจนซีส์ - นักโทษชาวไนจีเรียนับร้อยราย ที่ทางกองทัพอ้างว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มกบฏ “โบโก ฮาราม” ต้องเสียชีวิตในเรือนจำทหารที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งอยู่ในแถบที่ทางกองทัพไนจีเรียได้พยายามใช้กำลังทหารเข้าจัดการกลุ่มมุสลิมติดอาวุธ โดยทางกลุ่มอ้างฮิวแมนไรท์วอชอ้าง นักโทษเสียชีวิตจากการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น ขาดอาหาร หรือถูกกระบวนการยุติธรรมแบบเร่งรัดสั่งโทษประหารชีวิต จากแอมเนสตีสากล
กลุ่มฮิวแมนไรท์วอชอ้างว่า จากเหตุการณ์ที่นักโทษไนจีเรียหลายร้อยคนในเรือนจำในแถบที่กองทัพไนจีเรียเข้าปราบ “โบโก ฮาราม”กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงติดอาวุธนั้น นักโทษบางคนนั้นเสียชีวิตเนื่องมาจากขาดอากาศเนื่องจากความแออัดของห้องขังในเรือนจำทหาร ในขณะที่นักโทษรายอื่นเสียชีวิตเนื่องมาจากการไม่ได้รับอาหารเพียงพอ และการถูกสังหารตามกระบวนการยุติรรมแบบเร่งรัด
นอกจากนี้แอมเนสตีสากลยังกล่าวต่อไปว่า จำนวนนักโทษที่เสียชีวิตในเรือนจำนั้นเป็นจำนวนมาก และร่างของผู้เสียชีวิตจะถูกฝังหมู่เป็นประจำ โดยทางผู้สื่อข่าวของบีบีซีประจำไนจีเรียได้ส่งรูปถ่ายของร่างนักโทษที่เสียชีวิตที่จากรายงานพบว่ากองทัพไนจีเรียได้ทิ้งศพนักโทษไว้ที่ข้างนอกที่จัดงานศพในเมืองไมดูกูรี และพบว่าตามตัวไม่พบบาดแผลของการเสียชีวิตจากการสู้รบในสมรภูมิ
โดยทางกลุ่มสิทธิมนุษยชนนี้ได้เรียกร้องให้มีการสอบสวนการเสียชีวิตของนักโทษเหล่านี้ ซึ่งทางนักข่าวบีบีซีอ้างว่าเป็นที่ทราบกันดีว่าการสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องลักษณะนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามทางการไนจีเรียยังไม่ได้ตอบข้อเรียกร้องของกลุ่มสิทธิมนุษยชนนี้อย่างเป็นทางการ ในขณะที่ทางกองทัพไนจีเรียได้ปฎิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดในเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน
โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพไนจีเรียได้เผยกับแอมเนสตีสากลว่า มีนักโทษในเรือนจำของกองทัพอย่างน้อย 950 คนที่ได้เสียชีวิตลงในช่วงครึ่งปีแรกนี้ โดยนักโทษส่วนใหญ่นั้นถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับกลุ่มมุสลิมติดอาวุธหัวรุนแรง โบโก ฮาราม แอมเนสตีสากล กล่าว
จากรายงานพบว่า กลุ่มติดอาวุธมุสลิมหัวรุนแรง “โบโก ฮาราม” นั้นมีเป้าหมายล้มรัฐบาลไนจีเรียเพื่อตั้งรัฐอิสลาม และทางกลุ่มกบฎนี้ได้โจมตีสถานศึกษาไนจีเรียที่เมืองกุจบา โดยเมื่อต้นปี 2013 มีนักศึกษาวิทยาลัยการเกษตรราว 50 คนถูกยิงเสียชีวิตคาหอพักขณะนอนหลับ และห้องเรียนถูกไฟเผา ซึ่งการโจมตีครั้งนี้ได้มีการกล่าวโทษกลุ่มติดอาวุธ โบโก ฮาราม ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
ในขณะที่รัฐบาลไนจีเรียได้ประกาศสถานะการณ์ฉุกเฉินบังคับใช้ใน 3 รัฐทางตอนเหนือเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้แก่ รัฐโยเบ รัฐบอร์โน และรัฐแอดามาวา จาการที่มีคนเสียชีวิตนับพันจากการโจมตีของกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ