เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - การสู้รบอย่างดุเดือดระหว่างกองทัพไนจีเรีย กับกลุ่มนักรบมุสลิมหัวรุนแรงระลอกล่าสุดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 185 ราย
รายงานข่าวระบุว่า การปะทะกันระหว่างทหารจากกองทัพรัฐบาลไนจีเรียกับกลุ่มติดอาวุธมุสลิม “โบโก ฮารัม” ระลอกล่าสุดได้เริ่มเปิดฉากขึ้นตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ (19) ที่เมืองบากา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 185 รายเมื่อนับถึงวันอาทิตย์ (21) ที่ผ่านมา และมีผู้ที่ต้องอพยพหนีตายออกจากพื้นที่เป็นจำนวนมาก ขณะที่บ้านเรือน ร้านค้า และรถยนต์จำนวนไม่น้อยถูกเผาทำลายจนได้รับความเสียหาย ถือเป็นหนึ่งในเหตุนองเลือดที่สุดที่เกิดจากการสู้รบระหว่างกองกำลังฝ่ายรัฐบาลกับนักรบของโบโก ฮารัม
อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 185 รายที่พบศพนั้นมีพลเรือนรวมอยู่ด้วยกี่ราย รวมถึงยังไม่สามารถบอกได้ว่าทหารของฝ่ายรัฐบาลและกลุ่มโบโก ฮารัม ประสบความสูญเสียมากน้อยเพียงใด ขณะที่ร่างผู้เสียชีวิตบางรายก็ถูกไฟเผาจนยากจะระบุตัวตนที่แท้จริงได้
ด้านพลจัตวาออสติน เอด็อกปาเย แห่งกองทัพไนจีเรียซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบภารกิจกวาดล้างกลุ่มนักรบหัวรุนแรงในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศออกมาเปิดเผยว่า นักรบกลุ่มโบโก ฮารัมใช้ปืนกลและอาวุธหนักหลายชนิดในการสู้รบตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่า พวกนักรบหัวรุนแรงพยายามใช้พลเรือนเป็น “โล่ห์มนุษย์” ในหลายพื้นที่ เพื่อป้องกันการถูกโจมตีจากทหารฝ่ายรัฐบาล
นับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา การโจมตีของพวกกลุ่มติดอาวุธมุสลิมหัวรุนแรงในไนจีเรีย เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1,548 ราย และเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว กลุ่มโบโก ฮารัมได้ก่อเหตุโจมตีที่เมืองคาโน เมืองใหญ่ที่สุดทางภาคเหนือของไนจีเรีย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 185 ราย โดยกลุ่มดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อสถาปนาระบอบการปกครองแบบรัฐอิสลามอันเข้มงวดขึ้นในไนจีเรีย ซึ่งเป็นบ้านของประชากรมากกว่า 160 ล้านคนทางตะวันตกของทวีปแอฟริกา
