เอเอฟพี - บันคีมุน เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวในวันศุกร์ (11) ว่ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่มอบแด่องค์การตรวจตราเฝ้าระวังอาวุธเคมีระดับโลก คือการเน้นย้ำให้เห็นถึงภัยคุกคามที่ไม่รู้จักจบสิ้นของอาวุธร้ายแรงชนิดนี้
“มันคือการตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเกือบ 100 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่มีการโจมตีด้วยอาวุธเคมีครั้งแรกและ 50 วัน หลังจากการใช้อาวุธเคมีอันน่าสยดสยองในซีเรีย สืบทอดจากจุดเริ่มต้นในอดีต อาวุธเคมียังคงสานต่อความอันตรายมาจนถึง ณ ปัจจุบันนี้” นายบัน กล่าวยกย่อง “องค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี” (Organisation for the Prohibition of Chemical Weapons ใช้อักษรย่อว่า OPCW) ซึ่งเป็นผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปีนี้
ถ้อยแถลงของเลขาธิการสหประชาชาติ ระบุต่อว่าองค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมีและสหประชาชาติถือกำเนิดขึ้นมาจากพื้นฐานความเกลียดชังที่มีต่อความร้ายกาจของสงคราม จากสนามรบสู่ห้องวิจัยเพื่อไปยังโต๊ะเจรจา สหประชาชาติรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมด้วยช่วยกันกับOPCW สำหรับทำงานทุกวันเวลาเพื่อขจัดภัยคุกคามของอาวุธเคมีออกจากผู้คน ด้วยความร่วมมือซึ่งกันและกัน เราจำเป็นต้องสร้างความมั่นใจว่าจะไม่มีการใช้แก๊สพิษในสงครามใดๆ อีก”
เลขาธิการสหประชาชาติรายนี้ ยังกล่าวแสดงความยินดีกับองค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมีที่ได้รับรางวัลโนเบล และยกย่องบทบาทขององค์กรแห่งนี้ในการกระชับหลักนิติธรรมในขอบเขตของการปลดและไม่แพร่ขยายอาวุธเคมี แต่ก็แนะนำว่ารางวัลโนเบลนี้ควรมาพร้อมกับความพยายามผลักดันครั้งใหม่ให้ทุกประเทศลงสนามในอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมีต่อไป
