เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - จอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินชื่อก้องโลกชาวอเมริกันเชื้อสายฮังกาเรียน ออกโรงเตือนในวันอังคาร (8) โดยระบุบรรดาชาติเจ้าหนี้ในยุโรปต้องเตรียม “ทำใจ” ชี้ ประเทศที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวอย่างกรีซ จะไม่มีทางหาเงินมาใช้หนี้ได้
โซรอส วัย 83 ปี ซึ่งมีทรัพย์สินในครอบครองมากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 628,300 ล้านบาท) เปิดใจให้สัมภาษณ์ในวันอังคาร (8) กับ “แดร์ ชปีเกิล” นิตยสารข่าวชื่อดังของเยอรมนี โดยโซรอสระบุว่า บรรดาเจ้าหนี้รายใหญ่ของกรีซจะต้องเตรียมทำใจยอมรับความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น เพราะโอกาสที่รัฐบาลกรีซจะสามารถหาเงินมาชำระหนี้เงินที่กู้ยืมมานั้น “แทบเป็นศูนย์”
“ในเวลานี้ ทุกคนต่างรู้ดีว่ากรีซจะไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้หนี้ได้ แต่ไม่น่าเชื่อที่บรรดาผู้นำในยุโรป ต่างยังคงตั้งความหวังแบบลมๆ แล้งๆ ว่า พวกเขาจะได้รับเงินคืนจากรัฐบาลเอเธนส์” โซรอส กล่าวพร้อมชี้ว่า หนทางเดียวเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาหนี้สินของกรีซได้ทั้งหมด นั่นก็คือ การ “ล้างหนี้” ทั้งหมดของกรีซให้เหลือศูนย์
ที่ผ่านมา รัฐบาลกรีซขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจาก “เจ้าหนี้ 3 ฝ่าย” หรือ “ทรอยกา” ซึ่งประกอบไปด้วย สหภาพยุโรป (อียู) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มาแล้ว 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกวงเงิน 110,000 ล้านยูโร (ราว 4.7 ล้านล้านบาท) เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2010 ส่วนครั้งที่สอง คือ วงเงิน 100,000 ล้านยูโร (ราว 4.3 ล้านล้านบาท) ในเดือนกรกฎาคม ปี 2011 ส่งผลทำให้รวมเบ็ดเสร็จแล้วการกู้เงินทั้ง 2 ครั้งของกรีซ มีวงเงินรวมกันสูงถึงกว่า “9 ล้านล้านบาท”
โดยทางอียู ไอเอ็มเอฟ และอีซีบี กำหนดให้รัฐบาลกรีซจะต้องหาเงินมาชำระหนี้สินที่เกิดจากการกู้ยืมไปทั้งสองครั้งดังกล่าวภายในระยะเวลา 15 ปี และรัฐบาลกรีซจะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับบรรดาเจ้าหนี้อีกในอัตราร้อยละ 3.5 ของเงินที่กู้ยืมไป
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งยุโรป (ยูโรสแต็ท) เผยว่ากรีซเป็นชาติสมาชิกอียู และกลุ่มยูโรโซน ที่มีสัดส่วนของหนี้สินสูงที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศสมาชิกอื่น
โดยในปี 2012 ที่ผ่านมา ยอดหนี้สาธารณะของกรีซพุ่งสูงถึง “126.8 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี” และมีการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญว่า ภายในปี 2020 ยอดหนี้สาธารณะของกรีซก็จะยังคงไม่ลดต่ำไปกว่า 120.5 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี