เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - จอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินชื่อก้องระบุเยอรมนีซึ่งเป็นชาติที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในกลุ่มยูโรโซนจะประสบกับ “ภาวะถดถอย” พร้อมชี้วิกฤตด้านหนี้สินและงบประมาณในยุโรปยังอยู่ห่างไกลจากคำว่า “สิ้นสุด”
จอร์จ โซรอส วัย 82 ปี ซึ่งมีทรัพย์สินในครอบครองกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 580,600 ล้านบาท) เตือนว่าแม้ในขณะนี้ เยอรมนีจะดูเหมือนแทบไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากผลพวงของปัญหาในกลุ่มยูโรโซน หรือกลุ่ม 17 ประเทศที่ใช้เงินยูโรเป็นเงินตราสกุลหลัก แต่ตัวเขาเชื่อว่าเศรษฐกิจของเยอรมนีซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในยูโรโซนจะต้องเผชิญกับภาวะถดถอยอย่างแน่นอน
โซรอสระบุว่า ชะตากรรมดังกล่าวของเยอรมนีอาจเกิดขึ้น ในขณะที่มีการเลือกตั้งทั่วไปในเยอรมนีในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ แม้รัฐบาลเยอรมนีภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีหญิงอังเกลา แมร์เคิล จะยังคงเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจเมืองเบียร์จะไม่ถดถอย แต่อาจมีการเติบโตในปีนี้แบบ “ต่ำเตี้ยติดดิน” ที่ระดับ 0.4 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
พ่อมดการเงินชาวอเมริกัน เชื้อสายฮังการียังเชื่อว่าวิกฤตยูโรโซนน่าจะดำเนินต่อไป โดยมี “สัญญาณแห่งความหวัง” เพียงน้อยนิดต่อการสิ้นสุดของปัญหา แต่ถึงกระนั้น เชื่อว่าปัญหาของยุโรปไม่น่าจะมีผลกระทบมากนักต่อตลาดหุ้น
ทั้งนี้ วิกฤตด้านหนี้สิน การขาดดุลงบประมาณ และปัญหาความไร้เสถียรภาพที่เกิดขึ้นในสถาบันการเงินของหลายประเทศที่เป็นสมาชิกกลุ่มยูโรโซนได้ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปีแล้ว นับตั้งแต่ที่กรีซ กลายเป็นประเทศแรกที่ต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินก้อนแรกจำนวน 110,000 ล้านยูโร (ราว 4.18 ล้านล้านบาท) จากสหภาพยุโรป (อียู) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)
จากนั้นโปรตุเกส สเปน สาธารณรัฐไอร์แลนด์ และล่าสุดคือ ไซปรัส ต่างเป็นสมาชิกยูโรโซน ที่ต้องทยอยขอรับความความช่วยเหลือเป็นรายต่อมาในวงเงินที่แตกต่างกันออกไป ขณะที่อังกฤษและฝรั่งเศสแม้จะไม่ต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงิน แต่ก็ถูกสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่างๆ ปรับลดความน่าเชื่อถือลงจากระดับ “ทริปเปิลเอ” ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นครั้งแรก