xs
xsm
sm
md
lg

ฮือฮา! “จอร์จ โซรอส” แต่งงานหนที่ 3 ในชีวิตกับเจ้าสาวอายุห่างกัน 41 ปี พร้อมเตรียมแผน “ฮันนีมูนลับ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - “จอร์จ โซรอส” พ่อมดการเงินชื่อก้องโลกชาวอเมริกันเชื้อสายฮังการี วัย 83 ปี จูงมือเจ้าสาวคนล่าสุด “ทามิโกะ โบลตัน” ที่มีอายุห่างกันถึง 41 ปี เข้าสู่ประตูวิวาห์อย่างเป็นทางการในวันเสาร์ (21) นับเป็นการแต่งงานหนที่ 3 ในชีวิตของโซรอส

รายงานข่าวระบุว่า โซรอส วัย 83 ปี และนางโบลตัน วัย 42 ปีได้เข้าพิธีแต่งงาน ซึ่งจัดขึ้นเป็นการส่วนตัวที่บ้านพักของโซรอสในเมืองเบดฟอร์ด มลรัฐนิวยอร์ก โดยมีเพียงสมาชิกในครอบครัว และเพื่อนสนิทจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานรักของทั้งคู่

โดยการแต่งงานกับทามิโกะ โบลตันครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ในชีวิตของโซรอส หลังจากการแต่งงานก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง มีอันต้องจบลงด้วยการหย่าร้างทั้งการแต่งงานกับนางแอนนาลีซ วิทแช็ค ในปี 1960 และซูซาน เวเบอร์ ในปี 1983

ขณะที่ในส่วนของนางโบลตัน ซึ่งมีอาชีพเป็นที่ปรึกษาด้านการศึกษาและสุขภาพนั้น การเข้าสู่ประตูวิวาห์ของเธอในวันเสาร์ (21) ถือเป็นการแต่งงานครั้งที่ 2 ในชีวิตของเธอ

แม้จะมีเพียงสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนสนิทจำนวนหนึ่งที่ได้รับเชิญมาร่วมงานดังกล่าว แต่ผู้สื่อข่าวที่สังเกตการณ์อยู่บริเวณด้านนอกสถานที่จัดงานระบุว่า หนึ่งในผู้ที่เดินทางมาร่วมพิธีครั้งนี้มี จิม ยอง คิม ประธานธนาคารโลกชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลีรวมอยู่ด้วย รวมถึงแขกรับเชิญระดับผู้นำประเทศอีก 3 คน คือ เอดี รามา นายกรัฐมนตรีแห่งแอลเบเนีย, เอลเลน จอห์นสัน เซอร์ลีฟ ประธานาธิบดีไลบีเรีย และ เฮนดริค ทูมาส อิลเวส ประธานาธิบดีแห่งเอสโตเนีย

แหล่งข่าวที่เป็นคนใกล้ชิดกับโซรอสเผยว่า พ่อมดการเงินชื่อก้องโลกที่มีทรัพย์สินในครอบครองกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 620,800 ล้านบาท) มีแผนควงเจ้าสาวคนล่าสุดไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ณ สถานที่ซึ่งไม่มีการเปิดเผยแห่งหนึ่ง

ข้อมูลระบุว่า โซรอสและโบลตันพบกันระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำแห่งหนึ่งเมื่อปี 2008 และได้มีการประกาศการหมั้นไปแล้วเมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน

ทั้งนี้ โซรอสสร้างชื่อให้กับตัวเองจากการโจมตีค่าเงินปอนด์ของอังกฤษ จนทำให้ธนาคารกลางเมืองผู้ดีแทบล้มละลายเมื่อปี 1992 รวมถึงการฟันกำไรมหาศาลจากการโจมตี “ค่าเงินบาท” ของไทยและสกุลเงินของหลายชาติในเอเชียเมื่อครั้งเกิด “วิกฤตต้มยำกุ้ง” เมื่อกลางปี 1997 ซึ่งทำให้ผู้คนในเอเชียตกงานและฆ่าตัวตายเป็นจำนวนมาก



กำลังโหลดความคิดเห็น