เอเอฟพี - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ แจ็ก ลิว ออกโรงเตือนวานนี้ (6) ว่าสภาคองเกรสไม่ควร “เล่นกับไฟ” หลังจากที่ ส.ส.รีพับลิกันขู่จะปล่อยให้สหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้ (default) หากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยังไม่ยอมเจรจาผ่อนปรนเรื่องงบประมาณ
จอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน ยืนยันว่า ส.ส.ฝ่ายค้านจะไม่ยอมผ่านกฎหมายเพิ่มเพดานก่อหนี้ของสหรัฐฯ หากปราศจากการประนีประนอมจากฝ่ายทำเนียบขาว ซึ่งเป็นการประกาศเดินหน้าท้าชนกับรัฐบาล ในขณะที่วิกฤตปิดหน่วยงานรัฐยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 6
ระหว่างให้สัมภาษณ์ในรายการ This Week ทางสถานีโทรทัศน์เอบีซี โบห์เนอร์ ชี้ว่า “ผมบอกท่านประธานาธิบดีไปแล้ว ไม่มีทางที่เราจะผ่านร่างกฎหมายเช่นนั้นได้ สภาผู้แทนราษฎรไม่พร้อมที่จะโหวตเพิ่มเพดานหนี้โดยไร้เงื่อนไข และประธานาธิบดีก็ต้องเสี่ยงกับการผิดนัดชำระหนี้ หากยังไม่ยอมเจรจากับเรา”
โอบามาประกาศจะไม่เจรจาใดๆทั้งสิ้นกับรีพับลิกัน จนกว่าสภาผู้แทนราษฎรจะผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวให้หน่วยงานรัฐเปิดทำการได้ และยอมตกลงขยายเพดานหนี้
รัฐมนตรีคลัง แจ็ก ลิว เตือนว่า สหรัฐฯ จะหมดความสามารถในการกู้ยืมภายในวันที่ 17 ตุลาคม และหากยังมีเงินสดในมือเพียง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่หนี้สินอาจจะสูงถึง 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน วอชิงตันก็จะต้องผิดนัดชำระหนี้ในที่สุด
“ผมขอแจ้งให้ทราบเลยว่า ภายในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ เราจะไม่สามารถกู้ยืมได้อีกต่อไป และสภาคองเกรสกำลังเล่นอยู่กับไฟ” ลิวให้สัมภาษณ์ในรายการ State of the Union ทางสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น
“ถ้าพวกเขาไม่ขยายเพดานก่อหนี้ เราจะมีเวลาเหลืออีกน้อยมาก ก่อนที่วิกฤตการณ์นั้นจะเริ่มขึ้น”
การขยายอำนาจกู้ยืมของรัฐบาลสหรัฐฯ ให้สูงกว่าเพดานหนี้ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบันกำลังเป็นจับตามองอย่างกว้างขวาง ขณะที่สภาคองเกรสยังติดหล่มปัญหาซึ่งเกิดจากการที่รีพับลิกันมุ่งขัดขวางกฎหมายปฏิรูประบบสาธารณสุข Affordable Care Act หรือ “โอบามาแคร์” ที่เป็นนโยบายเด่นของรัฐบาลโอบามา
ปมขัดแย้งเรื่อง “โอบามาแคร์” เป็นเหตุให้สหรัฐฯ ต้องสั่งปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ตั้งแต่วันอังคารที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นมา เนื่องจากสภาคองเกรสไม่สามารถตกลงผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวได้
ส.ส.รีพับลิกันซึ่งครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ยืนกรานจะไม่ผ่านกฎหมายงบประมาณใดๆ ที่ไม่มีการตัดงบโอบามาแคร์ ขณะที่วุฒิสภาเดโมแครตกุมก็ประกาศเช่นกันว่า จะยอมอนุมัติเฉพาะร่างกฎหมายที่ไม่กระทบต่อโอบามาแคร์เท่านั้น
ท่ามกลางภาวะไร้ทางออก กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันเสาร์ (5) ว่าจะเรียกเจ้าหน้าที่พลเรือนเกือบ 400,000 คนที่ถูกพักงานกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม ขณะที่บริษัท ไซกอสกี ซึ่งเป็นคู่สัญญาผลิตเฮลิคอปเตอร์ UH-60 Black Hawk ให้กับกองทัพสหรัฐฯ ก็ระบุว่า นโยบายของเพนตากอนจะช่วยให้บริษัทเลื่อนแผนพักงานเจ้าหน้าที่ 2,000 คนโดยไม่มีค่าจ้างออกไปก่อนได้
วันเสาร์ที่ผ่านมา (5) สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ โหวตอย่างเป็นเอกฉันท์ผ่านกฎหมายอนุมัติให้สหรัฐฯ สามารถจ่ายเงินชดเชยให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางจำนวนกว่า 800,000 ราย ในช่วงที่เกิดวิกฤตหน่วยงานรัฐอยู่ ทั้งนี้เพื่อลดกระแสต่อต้านจากสาธารณชน