เอพี - หากสหรัฐฯ ต้องเกิดวิกฤตการปิดหน่วยงานรัฐเกิดขึ้นจริง เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานรัฐบาลกลางยังคงต้องทำงานเป็นเวลา 4 ชั่วโมงในวันอังคาร (1) เพื่อมีเวลาในการเตรียมปิดสำนักงาน พร้อมกันนั้นพวกเขายังถูกสั่งห้ามไม่ให้ทำงานต่อจากที่ค้างไว้ รวมถึงได้รับคำแนะนำให้ทิ้งอุปกรณ์ทุกอย่างรวมทั้งโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ที่ได้รับจากหน่วยงานไว้ในตัวสำนักงานก่อนมุ่งหน้ากลับบ้าน ซึ่งพวกเขาจะไม่ได้รับการจ่ายเงินในระยะเวลาที่หน่วยงานถูกปิด
จากการรายงานพบว่า เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ต่างต้องเตรียมพร้อมหากเกิดวิกฤตการปิดหน่วยงานรัฐขึ้นในสหรัฐฯ จริงในรอบ 17 ปี โดยพวกเขาต้องจำกัดขอบเขตการทำงานของตนเอง รวมถึงต้องเปลี่ยนระบบ voice mail message ปรับระบบตอบรับอีเมลอัตโนมัติ และทำให้แน่ใจว่าเอกสารของราชการนั้นถูกเก็บในที่ปลอดภัยเพื่อกันสูญหาย รวมถึงออฟฟิศนั้นถูกล็อกอย่างแน่นหนา รวมทั้งเช็คระบบตอกบัตรเข้างาน หากไม่ทำเช่นนั้นอาจมีผลทางกฏหมายหากมีการฝ่าฝืน
การปิดตัวของหน่วยงานรัฐนั้นจะปิดเฉพาะของรัฐบาลกลางเท่านั้น แต่หน่วยงานสหรัฐฯที่ยังเปิดให้บริการต่ออาทิเช่น หน่วยงานเกี่ยวกับความมั่นคงกองทัพ ศูนย์การควบคุมการจราจรทางอากาศ หน่วยงานของ Homeland Security ที่คอยคุมการเข้าออกชายแดน รวมไปจนถึงการให้บริการสถานทูตและสถานกงศุลในต่างแดนที่ให้บริการวีซ่ากับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและพลเมืองสหรัฐฯ
ตัวอย่างหน่วยงานที่มีผลต้องปิดตัวลงชั่วคราวเช่น หน่วยงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ พนักงานในหน่วยงานนี้ “ไม่ได้รับอนุญาต” ให้ทำโปรเจกต์หรืองานใดๆ ที่ค้างอยู่ หรือแม้กระทั่งตอบอีเมล เพราะผลตามกฏหมายที่งบการเงินของหน่วยงานในปีที่แล้วสิ้นสุดลงในวันที่ 30 กันยายน และจะไม่สามารถเปิดให้บริการต่อได้หากไม่มีงบประมาณตามกฎหมายชั่วคราวมารองรับเพื่อป้องกันการปิดตัวลง
และเมื่อพนักงานในหน่วยงานนี้มุ่งหน้ากลับบ้าน พวกเขา“จะไม่ได้รับอนุญาต” ให้ทำงานใดๆ หมายความว่า จะไม่อนุญาตให้แอบเช็กอีเมลในแบล็กเบอร์รี หรือไอโฟน 5 รุ่นล่าสุด หรือห้ามเปิดคอมพิวเตอร์ ห้ามเช็ก voice mail ของหน่วยงาน กล่าวโดยรวมคือ พนักงานรัฐที่ต้องหยุดงานนั้น ถูก ห้ามใช้อุปกรณ์ต่างๆ ที่พวกเขาได้รับมาจากหน่วยงานเพื่อประโยชน์ในการทำงานในช่วงวิกฤตปิดหน่วยงานรัฐ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ ซึ่งจาก CNN พบว่าแบล็กเบอร์รีนั้นเป็นโทรศัพท์สมาร์ทโฟนยี่ห้อเดียวที่เจ้าหน้าที่รัฐได้รับจากหน่วยงานของรัฐบาลกลางและสามารถใช้ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายสหรัฐฯ
นอกจากนี้ยังพบว่า ทางผู้อำนวยการของหน่วยงานหรือหัวหน้าแผนกต่างได้ขอร้องให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทิ้งทั้งโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ได้รับจากหน่วยงานไว้ที่โต๊ะทำงาน ในขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐที่มีสัญญาการทำงานแบบทำงานจากบ้านนั้นอาจจะมีความลำบากมากกว่า เนื่องจากติดนิสัยการเช็กเมลจากโทรศัพท์มือถือหรือเช็กเอกสารบนคอมพิวเตอร์
ในวันอังคาร (1) เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะได้รับอีเมลอย่างเป็นทางการว่า พวกเขามีความจำเป็นที่จะต้องหยุดงานหรือไม่ นอกจากนี้ อีเมลนี้จะรวมถึงการใช้สิทธิยื่นร้องเรียน และแบบฟอร์มสำหรับการร้องขอประกันการว่างงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบางรายอาจมีสิทธิ์ได้สวัสดิการว่างงานซึ่งต้องขึ้นอยู่ว่าเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐผู้นั้นอาศัยอยู่่ไหน โดยบางรัฐกำหนดให้รอ 1 สัปดาห์ก่อนที่จะมีสิทธิ์ขอรับสวัสดิการแต่ในหลายรัฐให้พนักงานที่ได้รับผลกระทบการปิดหน่วยงานรัฐซึ่งนี่ไม่ใช่เกิดครั้งแรกในสหรัฐฯสามารถขอรับสิทธิ์ได้ทันที
อย่างไรก็ตาม กำหนดการจ่ายค่าตอบแทนของเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางที่ถูกปิดลงชั่วคราวนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบในทันที แต่หากถ้าวิกฤตนี้ยังยึดเยื้อ กำหนดการจ่ายค่าตอบแทนจะเลื่อนเป็นวันที่ 15 ตุลาคม นี้สำหรับวันทำงานตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน ถึงวันที่ 30 กันยายน โดยในช่วงที่หน่วยงานถูกปิดนั้น บรรดาลูกจ้างของรัฐบาลกลางจะไม่ได้รับเงินตอบแทนแต่อย่างใด และส่วนใหญ่การจ้างงานในสหรัฐฯนั้นได้รับค่าตอบแทนเป็นชั่วโมง และมีการจ่ายเงินทุก 15 วัน
