เอเอฟพี – สามีในอย่างน้อย 15 ประเทศมีอำนาจสั่งห้ามภรรยาไม่ให้ทำงานได้ ธนาคารโลกระบุวานนี้ (24 ก.ย.) ในรายงานเรื่องความเท่าเทียมทางเพศภาวะในธุรกิจ
“สังคมจำนวนมากได้ก้าวไปข้างหน้า และค่อยๆ สร้างความเปลี่ยนแปลง เพื่อขจัดปัญหาการกดขี่สตรีที่หยั่งรากฝังลึกให้หมดไป แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องแก้ไข” จิม ยองคิม ประธานธนาคารโลกเกริ่นในบทนำของรายงานฉบับนี้
ในบรรดา 143 ประเทศ ซึ่งรายงานฉบับนี้ที่มีชื่อว่า “Women, Business and the Law 2014” กล่าวถึง มี 15 ประเทศ เป็นต้นว่า อิหร่าน ซีเรีย โบลิเวีย และกาบอง ที่ผู้ชายมีสิทธิคัดค้านไม่ให้ภรรยาทำงานได้ และ 79 ประเทศ ที่มีการตรากฎหมายห้ามผู้หญิงทำงานบางประเภท
“บรรดาชาติที่มีข้อจำกัดในการจ้างงานผู้หญิงกว้างขวางที่สุด อยู่ในยุโรปตะวันออก และเอเชียกลาง” รายงานดังกล่าวชี้
ในสาธารณรัฐกินี ภรรยาสามารถคัดค้านการตัดสินใจของสามีในชั้นศาลได้ แต่เธอต้องมีข้อพิสูจน์ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรม เพื่อให้การตัดสินใจของสามีตกไป
สาเหตุที่ทำให้กฎหมายประเภทนี้หลงเหลืออยู่ ก็คือ ประวัติศาสตร์
“สิ่งตกค้างของประวัติศาสตร์ยังคงปรากฏอยู่ในกฎหมายของบางประเทศ เนื่องจากพวกกฎหมาย อย่างประมวลกฎหมายนโปเลียนนั้นมีการรับเอามาใช้กันทั้งหมดโดยไม่มีการแบ่งแยก และจากนั้นก็ไม่มีการนำมาทบทวนหรือปรับปรุงให้ทันสมัยอย่างสม่ำเสมอ”
“ตัวอย่างเช่น แนวคิดเรื่องหัวหน้าครอบครัวได้ถูกลบทิ้งออกไปจากประมวลกฎหมายแพ่งฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 1970 แต่แนวคิดนี้ก็ยังคงมีอยู่ในประมวลกฎหมายแพ่ง ที่ใช้กันในประเทศแถบภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกเป็นจำนวนมาก”
ที่รัสเซีย ผู้หญิงถูกห้ามไม่ให้ทำอาชีพ 456 ประเภท เป็นต้นว่า คนขับรถบรรทุก คนขับรถไฟขนส่งสินค้า และช่างไม้
กฎหมายพวกนี้มีจำนวนมากที่เป็นมรดกตกทอดมาจากระบอบการปกครองสังคมนิยมของสหภาพโซเวียตในสมัยก่อน และยังคงหลงเหลืออยู่อย่างไม่เปลี่ยนแปลง
รายงานระบุว่า ผลที่ตามมาประการหนึ่งคือ สหพันธรัฐรัสเซียมีความเหลื่อมล้ำทางรายได้ระหว่างหญิงและชายสูง ในช่วงที่ประเทศเปลี่ยนเป็นระบบทุนนิยม
นอกจากนี้ มีประเทศอย่างน้อย 29 แห่ง เช่น ซาอุดีอาระเบีย ฮอนดูรัส และเซเนกัล ที่กฎหมายกำหนดว่าตามระเบียบแล้วผู้ชายต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว ซึ่งเป็นการมอบอำนาจให้พวกเขาเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ เป็นต้นว่า การเลือกที่อยู่อาศัย การทำเอกสารสำคัญอย่างหนังสือเดินทาง หรือการเปิดบัญชีเงินฝาก
อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับนี้ได้ตั้งข้อสังเกตว่า บรรดาชาติตะวันตกที่พัฒนาแล้วยังดูจะล้าหลังในเรื่องการปรับปรุงกฎหมาย โดยสเปนเพิ่งอนุญาตให้ผู้หญิงสามารถยื่นฟ้องคดีด้วยตัวเองโดยไม่ต้องขออนุญาตสามี เมื่อปี 1981 และในสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี 1984
รายงานฉบับนี้ชี้ว่า ความก้าวหน้ายังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงข้อกฎหมายเพื่อสร้างความเท่าเทียมทางเพศภาวะใน 44 ประเทศ รวมทั้งสิ้น 48 ครั้ง เป็นต้นว่า ในปี 2013 นี้ไอเวอรีโคสต์ อนุญาตให้สตรีสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากสามี
ในทางกลับกัน อียิปต์กำลังเป็นชาติที่สวนกระแส ซึ่งเป็นผลมาจากการปฏิวัติในประเทศ และการที่กองทัพอิสลามิสต์ขึ้นมามีอิทธิพลทางการเมือง โดยประเทศนี้ได้ยกเลิกคำรับรองว่าต่อต้านการกดขี่ทางเพศในรัฐธรรมนูญ