คริสตจักรฟิลิปปินส์ไม่สน! ยืนกรานเห็นต่าง “โป๊ป” เรื่องคุมกำเนิด

เอเอฟพี-ผู้นำคริสตจักรนิกายคาทอลิกในฟิลิปปินส์ยืนกราน ต่อต้านการคุมกำเนิด,การทำแท้ง,และการแต่งงานของพวกรักร่วมเพศ แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส จะทรงเตือนให้ “ผ่อนปรน” กับประเด็นเหล่านี้บ้างก็ตาม คริสจักรฟิลิปปินส์แถลง วันนี้(24)

ร้อยละ 80 ของประชากรฟิลิปปินส์ 100 ล้านคน เป็นคาทอลิก ซึ่งทำให้ประเทศนี้เปรียบได้กับป้อมปราการแห่งศาสนาคริสต์ในเอเชีย โดยผู้นำศาสนายืนยันว่า แก่นของศาสนาจะยังคงอยู่ต่อไป

“พระองค์ไม่ได้ตรัสว่า สิ่งที่ศาสนาเคยบอกว่า “ผิด” กลายเป็น “ถูก”แล้ว พระองค์แค่รับสั่งพวกเราให้มีจิตเมตตา” โฆเซ ปาลมา ประธานคณะบาทหลวงคาทอลิก กล่าวโต้ถ้อยแถลงล่าสุดตอบกลับข้อล่าสุดของพระสันตะปาปา
“พระองค์คงจะไม่ตรัสว่า ยาคุมกำเนิด หรือแม้แต่การทำแท้ง คือสิ่งที่ถูกต้องขณะนี้ ไม่! อย่าหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นที่ยอมรับ” บาทหลวง ปาลมา กล่าววานนี้(23)

ในบทสัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โป๊ปฟรานซิส รบเร้าศาสนจักรผ่อนปรนจุดยืนลงบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การหย่าร้าง,เกย์,ยาคุมกำเนิด,และการทำแท้ง

ผู้นำศาสนาคริสต์ในฟิลิปปินส์เพียรพยายามมานานนับสิบปีที่จะต่อต้านกฎหมายคุมกำเนิด ซึ่งกำหนดให้รัฐทำการแจกถุงยาง ยาคุมกำเนิด และบริการทางการแพทย์หลังทำแท้ง แก่ประชาชน

ศาลสูงสุดสั่งเลื่อนประกาศใช้กฎหมาย ดังกล่าวในเดือนมีนาคม เพื่อฟังคำร้องเรียนทางการจากกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย ว่ากฎหมายนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

อาร์คบิชอป โซคราเตส วิลเลกาส รองประธานกลุ่มบาทหลวงกล่าวว่า “พระองค์ไม่ได้ตำหนิการต่อต้าน ยาคุมกำเนิด การทำแท้ง และการแต่งงานร่วมเพศ พระองค์เพียงแค่ต้องการทำให้มันเหมาะสม ”

เอ็ดเซล แล็กแมน อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติ ผู้ร่างกฎหมายคุมกำเนิด ให้สัมภาษณ์กับ เอเอฟพีว่า สิ่งที่พระสันตะปาปาตรัส ผลักดันเหล่าผู้นำศาสนาในฟิลิปปินส์ ต้องออกมาป้องกันตัวเอง เพราะพระองค์ชี้ว่าพวกเขาเป็นพวก “อนุรักษ์นิยมขวาจัด”

“ผมคิดว่าพวกเขาควรปรองดองกันในแง่ของหลักศาสนา ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาสามารถรับฟังความคิดเห็นแบบเสรีนิยมของพระสันตะปาปาคนใหม่ได้ มันไม่มีทางอื่น ยกเว้นแต่เดินตามวิถีพระสันตะปาปา” แล็กแมนกล่าว

แล็กแมนอธิบายว่า แนวคิดอนุรักษ์นิยมคริสตจักรฟิลิปปินส์ มีรากมาจากบทบาทที่สำคัญของโบสถ์ในการที่จะเปลี่ยนแปลงความศรัทธาของคนท้องถิ่นให้มานับถือศาสนาคริสต์ ในช่วงที่ดินแดนแห่งนี้ยังเป็นอาณานิคมของสเปน

“คริสตจักรยังเชื่อว่าพวกเขาควรจะมีส่วนร่วมในกิจการของรัฐด้วย ” แล็กแมนทิ้งท้าย