เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่เม็กซิโกเผยจำนวนตัวเลขรวมของผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงถึง 97 ราย ตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้ จากน้ำท่วมและดินถล่ม ผลจากการที่เม็กซิโกโดนถล่มทั้ง “พายุฮอริเคนอิงกริด” และ “พายุเฮอริเคนมานูเอล” พร้อมกัน ซึ่ง “พายุเฮอริเคนมานูเอล” นั้นถูกปรับเพิ่มระดับเป็นเฮอริเคนช่วงสั้นๆในวันพฤหัสบดี (19) ก่อนจะอ่อนแรงกลับเป็นพายุโซนร้อน และคาดว่าพายุลูกที่ 3 จ่อจะเข้าเม็กซิโกมาในไม่กี่วันนี้
พื้นที่อกาปุลโลและบริเวณใกล้เคียงได้รับผลกระทบมากที่สุดจากพายุโซนร้อนมานูเอล โดยเฉพาะที่หมู่บ้านลา ปินตาดา ที่มีประชากรอยู่ราว 600 คน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอกาปุลโล ใกล้กับชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ได้เกิดดินถล่มทับบ้านเรือนในช่วงวันเฉลิมฉลองการประกาศเอกราชเม็กซิโกในวันจันทร์ (16) ที่ผ่านมา ที่มีผลทำให้มียอดเสียชีวิตรวมจากน้ำท่วมและดินถล่มตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มสูงขึ้นราว 97 ราย ที่ยังไม่รวมยอดผู้สูญหายอีกกว่า 70 ราย ในขณะนี้สามารถค้นพบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 15 ราย เจ้าหน้าที่เม็กซิโกเผย
โดยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพยายามช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากดินถล่มที่หมู่บ้านลา ปินตาดา ออกมา และค้นหาร่างผู้เสียชีวิตที่ถูกฝังอยู่ โดยทางเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือผู้ที่รอดชีวิตออกมาได้ราว 400 คน และพวกเขาถูกจัดให้พักในศูนย์หลบภัยที่ศูนย์ประชุมอกาปุลโล ในอกาปุลโล เมืองท่าที่สำคัญของรัฐเกร์เรโร
จากเหตุการณ์ดินถล่มที่เกิดขึ้นล่าสุดนั้นมันถล่มลงมาตรงกลางหมู่บ้านพอดี ทำลายบ้านเรือน โบสถ์ โรงเรียน และโรงเรียนอนุบาลจนพังพินาศ และนักท่องเที่ยวต่างชาติในอกาปุลโล และบริเวณใกล้เคียงราว 10,000 คน ถูกอพยพออกจากพื้นที่เกิดเหตุด้วยเครื่องบินทหารลำเลียงของกองทัพเม็กซิโก นอกจากนี้ ยังพบว่าร้านค้าต่างๆ ในบริเวณนั้นถูกปล้นสะดม และชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ให้ช่วยเหลือตัวเอง เพราะความล่าช้าของทางการเม็กซิโก
“พวกเรากำลังทานอาหารเย็นกันอยู่ในขณะเกิดฟ้าร้อง และแผ่นดินถล่มพังบ้านของพวกเราลงมา และเสียงฟ้าร้องที่ได้ยินนั้นดังมากขึ้น” เอริกา กัวดาลูเป เผยกับเอเอฟพี ในขณะที่ อานา คลารา วัย 17 ปี อธิบายถึงเสียงฟ้าร้องที่ดังกึกก้องนั้นว่า “เสียงมันดังมาก ดังมากกว่าเสียงระเบิดเสียอีก” และมาเรีย เดล คาร์เมน คาตาลัน เสริมว่า “มีบ้านเรือนในหมู่บ้านลา ปินตาดา จำนวนมากกว่าครึ่งพังหายไปใต้กองดิน มีจำนวนเพียงไม่กี่หลังที่รอดพ้นมาได้” โดยผู้ที่รอดชีวิตออกมาได้นั้นถูกอพยพออกมาด้วยเฮลิคอปเตอร์ทหาร
“พายุโซนร้อนมานูเอล” ที่ถูกปรับระดับเป็นพายุเฮอริเคนช่วงสั้นๆ ในวันพฤหัสบดี (19) มุ่งหน้าไปทางเหนือ เป็นผลให้มีชาวเม็กซิโกที่อาศัยในรัฐซินาโลอาต้องอพยพออกมาจากบ้านเรือนตนเอง
จากการที่เฮอริเคนมานูเอลขึ้นฝั่ง ทำให้เกิดฝนตกหนักและลมด้วยความเร็ว 120 กม.ต่อ ชม.พร้อมกับน้ำท่วมฉับพลันในรัฐซินาโลอา
โรงเรียนที่อยู่ในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบนั้นต้องหยุดทำการเรียนการสอนชั่วคราว และชาวบ้านในหมู่บ้านชาวประมงยาเมโตต้องอพยพออกมา เพราะเฮอริเคนมานูเอลเคลื่อนเข้ามาใกล้ มีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมากกว่า 10,000 คน เพราะพายุเฮอริเคนลูกนี้ ผู้ว่าการรัฐซินาโลอา มาริโอ โลเปซ วาลเดซ เผยกับผู้สื่อข่าว
ทางด้านศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯ เผยว่า พายุเฮอริเคนมานูเอลได้อ่อนกำลังลง และถูกจัดเป็นพายุโซนร้อน และทางศูนย์คาดว่าพายุโซนร้อนมานูเอลจะสลายตัวก่อนสุดสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม คาดกันว่าสภาพอากาศของเม็กซิโกนั้นจะยังแย่อยู่ เพราะพายุลูกที่ 3 กำลังเข้ามาเม็กซิโกในไม่กี่วันข้างหน้านี้
และเป็นเพราะเม็กซิโกถูกพายุเฮอริเคนอิงกริดถล่มทางช่างฝั่งอ่าวเม็กซิโก ที่อยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศ ทำให้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ยุค 50 ที่เม็กซิโกต้องรับมือกับการถล่มของพายุ 2 ลูกซ้อนพร้อมกัน นักข่าวบีบีซีประจำเม็กซิโกซิตีรายงาน
