เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สถานการณ์ความขัดแย้ง และสงครามกลางเมืองในซีเรียที่ดำเนินมานานกว่า 2 ปีครึ่ง ส่งผลกระทบให้จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนประเทศเพื่อนบ้านของซีเรียลดน้อยถอยลง เกือบครึ่งหนึ่ง นับเป็นผลกระทบที่คาดไม่ถึงของสงครามซีเรียต่อภูมิภาคตะวันออกกลางโดยรวม
รายงานข่าวซึ่งอ้างข้อมูลจากเว็บไซต์จัดอันดับโรงแรมและประเมินคุณภาพของที่พักอย่าง “Trivago.co.uk” ชี้ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่ตัดสินใจเดินทางไปพักผ่อนในประเทศที่มีพรมแดนติดต่อกับซีเรียในปีนี้ มีจำนวนลดลงอย่างน่าใจหาย คิดเป็นค่าเฉลี่ยถึง 47 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
โดยเลบานอนเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด จากการที่ยอดนักท่องเที่ยวลดลงถึง 79 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วย ไซปรัส 55 เปอร์เซ็นต์, อิสราเอล 38 เปอร์เซ็นต์, จอร์แดน 32 เปอร์เซ็นต์ และตุรกีอีก 31 เปอร์เซ็นต์
ผลสำรวจของเว็บไซต์ดังกล่าวยังพบว่า นอกจากสงครามกลางเมืองในซีเรีย ที่ปะทุขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2011 จะส่งผลให้ยอดนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนกลุ่มประเทศแถบตอนบนของภูมิภาคตะวันออกกลางลดจำนวนลงแล้ว ความขัดแย้งในซีเรียยังมีผลให้อัตราค่าที่พักโดยเฉลี่ยของประเทศโดยรอบซีเรียลดต่ำลงมาอีกด้วย
โดยอัตราค่าห้องพักในกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอนในปีนี้ได้ปรับลดลงมาแล้วถึง 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่ราคาของห้องพักในนครเทล อาวีฟ ของอิสราเอลได้ปรับลดลงมาแล้ว 12 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับราคาห้องพักในโรงแรมที่เมืองอกาบา ซิตี และกรุงอัมมาน ของจอร์แดน ที่ปรับลดลงไปแล้ว 24 เปอร์เซ็นต์ และ 6 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ
ขณะที่ ฟิโอนา มาร์แชลล์ ผู้จัดการใหญ่ของบริษัท “เคอี แอดเวนเจอร์” ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดทัวร์ในรูปแบบของการผจญภัย เช่น การเดินป่า การปั่นจักรยานวิบาก รวมถึงการปีนเขา และมีการเปิดให้บริการในประเทศแถบตะวันออกกลางด้วย ระบุว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็น “ผลกระทบที่คาดไม่ถึง” ของสงครามในซีเรีย นอกเหนือจากการทำให้ผู้คนบาดเจ็บล้มตายหรือการต้องกลายสภาพเป็นผู้อพยพ